ผลการประชุมปมพิพาทการจับหอยแครงอ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นมีการให้พื้นที่เลี้ยงหอยแครงของชุมชนลีเล็ด อ.พุนพิน เป็นเขตผ่อนปรน ไม่ให้เข้าไปตักเก็บหอยแครง และสั่งชะลอซื้อนาน 3 วัน

จากกรณีเกิดเหตุไฟไหม้ขนำเฝ้าคอกหอยกลางทะเลของชาวบ้านชุมชนบ้านคลองราง ท้องที่หมู่ 2 ตำบลลีเล็ด อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายประเสริฐ ชัญจุกร กำนันตำบลลีเล็ด พร้อมชาวบ้านไปยังที่เกิดเหตุ แต่ไม่สามารถช่วยอะไรได้ โชคดีไม่มีผู้ใดติดอยู่บนขนำ โดยพบเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง เนื่องจากเป็นขนำไม้เก่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ตั้งอยู่สูงจากพื้นน้ำประมาณ 5 เมตร ทำให้เพลิงไหม้เสียหายเกือบทั้งหมด เหลือแต่เสา สำหรับคอกหอยดังกล่าวมีเนื้อที่เลี้ยงหอยแครงประมาณ 80 ไร่ ก่อนนี้เจ้าของได้ซื้อลูกหอยมาปล่อยเลี้ยงไว้ ได้ถูกชาวบ้านเข้ามาจับลูกหอยไปขายจนหมดแล้ว

ต่อมา พลโท สิทธิพร มุสิกะสิน แม่ทัพน้อยภาค 4 ได้ลงพื้นที่เพื่อเจรจากับชาวบ้าน โดยระบุว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เลี้ยงหอยใหญ่ ทางคณะทำงานจะประชุมเพื่อหาข้อยุติ โดยจะต้องให้เวลากับผู้ครอบครองเก่าซึ่งได้มีการลงทุน ส่วนจะให้ระยะเวลาเท่าไรอยู่ที่การประชุมหารือทุกฝ่าย ในส่วนผู้ที่ถูกจับกุมได้เจรจาปล่อยตัวชาวประมง ยกเว้นผู้ผิดกฎหมายยาเสพติด

...

ขณะที่ นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ในพื้นที่อ่าวบ้านดอนทุกคนมีสิทธิ์ใช้ประโยชน์โดยชอบธรรม ในส่วนหอยใหญ่ถ้าพิสูจน์ได้ว่ามีผู้ครอบครองต้องให้โอกาสในการจัดการ

จากนั้น เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 1 มิถุนายน นายสุทธิพงษ์ เป็นประธานประชุมแก้ไขปัญหาข้อพิพาทอ่าวบ้านดอน โดยมีนาวาเอกวศากร สุนทรนันท์ รอง ผอ.ศูนย์ ศรชล.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประมงจังหวัด ผอ.ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 เจ้าท่าภูมิภาค ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร มทบ.45 กอ.รมน.จังหวัด ตัวแทนชาวประมงพื้นบ้าน ผู้ประกอบการรับซื้อหอย และตัวแทนชุมชนเลี้ยงหอย เข้าร่วมประชุมหารือที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง

ข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมได้ชี้แจงปัญหาพื้นที่เลี้ยงหอยแครงของชุมชนลีเล็ด อ.พุนพิน ซึ่งเป็นหอยใหญ่ที่ชุมชนซื้อลูกพันธุ์มาเลี้ยงไว้ จึงให้ผู้ประกอบการและชุมชนไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจไว้เป็นหลักฐานและให้เฝ้าทรัพย์สินของตนเอง พร้อมให้แจ้งชาวประมงพื้นบ้านได้ทราบเป็นเขตพื้นที่ผ่อนปรน ไม่ให้เข้าไปตักเก็บหอย เนื่องจากจะถูกดำเนินคดีลักทรัพย์ รวมทั้งให้ผู้รับซื้อหอยในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี งดรับซื้อหอยแครงขนาดใหญ่และขนาดเล็กเป็นเวลา 3 วัน เพื่อชะลอปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนการรื้อถอนขนำและสิ่งรุกล้ำลำน้ำจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง.