เด็กวัย 12 ติดเกม ติดเน็ต ก่อเหตุเลียนแบบหนังในโซเชียลร่วมกับสาวรุ่นพี่ ทุบตู้ ATM ตู้เติมเงินบุญเติม แต่ไม่ได้เงิน เดินเซ็งอยู่หน้าค่ายทหารวชิราวุธ พร้อมแจ้งเรื่องราวให้ สห.ทราบ ก่อนขอมอบตัว อ้างอยากไปอยู่ในคุกสบาย ไม่มีใครไปทำอะไรได้ โดย ตร.ได้ตรวจสอบพบว่าเด็กคนดังกล่าวครอบครัวมีปัญหา และเพิ่งเรียนจบ ป.6
เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 11 เม.ย.63 พ.ต.ท.ก่อเกียรติ ทองนุ่น รองผกก.ป.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช นำกำลังไปที่ตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารไทย ซึ่งติดตั้งอยู่ที่ตลาดท่าแพ หมู่ 1 ต.ปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช หลังได้รับแจ้งจากสารวัตรทหาร ที่เข้าเวรอยู่ที่ประตูกองรักษาการณ์ ค่ายวชิราวุธ ว่า ได้ควบคุมตัวคนร้ายก่อเหตุงัดตู้เอทีเอ็มเอาไว้
โดยเมื่อตำรวจเดินทางไปถึง พบว่าสารวัตรทหารของค่ายดังกล่าว ได้ควบคุมเด็กชายเอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี เอาไว้ โดยแจ้งกับตำรวจว่า เด็กชายคนนี้มาแจ้งที่ป้อม สห. ว่าได้ก่อเหตุงัดตู้เอทีเอ็ม สารวัตรทหารจึงไปตรวจสอบ พบตู้เอทีเอ็มถูกงัดฝากตู้เปิดอ้าอยู่ จึงควบคุมตัวเด็กชายคนนี้เอาไว้ และแจ้งตำรวจ
...
ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบตู้เอทีเอ็มที่ถูกงัดอยู่ ก็ได้รับแจ้งว่าตู้เติมเงินโทรศัพท์ ที่ติดตั้งอยู่หน้าตลาดท่าแพ ถูกงัด ตำรวจได้แบ่งกำลังไปตรวจสอบ พบว่าตู้เติมเงินบุญเติม 1 ตู้มีรอยถูกงัด อีกตู้ที่ติดตั้งหน้าร้านค้าห่างไปราว 200 เมตร มีรอยถูกงัดและฝาตู้มีรอยถูกทุบด้วยของแข็งจนฝาตู้แตก
โดยในเบื้องต้น ด.ช.เอ บอกกับตำรวจว่า ตนและเพื่อนสาวรุ่นพี่ ชื่อ น.ส.สุวรรณี หรือ บิว อายุ 27 ปี ร่วมกันก่อเหตุ หลังก่อเหตุเพื่อนสาวรุ่นพี่ได้ขี่รถจักรยาน หลบหนีไปแล้ว ตำรวจจึงตามไปรวบตัว เพื่อนสาวของ ด.ช.เอ ได้ ขณะขี่รถจักรยานอยู่ข้างวัดท่าแพ หมู่ 1 ต.ปากพูน อ.เมือง
โดย น.ส.สุวรรณี รับสารภาพกับตำรวจว่า ร่วมกับ ด.ช.เอ งัดตู้เอทีเอ็มจริง แต่ไม่ได้เงิน จากนั้นจึงไปงัดตู้เติมเงินต่อ แต่ก็ไม่สำเร็จอีก เพราะมีชาวบ้านผ่านมาเห็นเหตุการณ์ จึงพากันหลบหนีไป โดยนำถุงมือที่สวมใส่ขณะก่อเหตุ ไปทิ้งในคลองท่าแพ
การตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า ด.ช.เอ เพิ่งเรียนจบชั้นป.6 ครอบครัวมีปัญหา จึงออกเที่ยวเตร่มั่วสุม กับเพื่อน โดยส่วนใหญ่เป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่มีอายุมากว่า ตำรวจสอบถามว่าทำไมถึงก่อเหตุ ด.ช.เอ ระบุว่า ต้องการเอาเงิน เพราะก่อนหน้านี้เคยงัดตู้เติมเงิน ได้เงินมากว่า 1 หมื่นบาท หลังก่อเหตุได้เผาตู้เติมเงิน เพราะไม่ต้องการให้มีรอยลายนิ้วมือติดอยู่ที่ตู้
แต่ในครั้งนี้ไม่ได้เงิน เลยเซ็ง จึงเปลี่ยนใจ ไม่หลบหนี แต่ไปบอกกับสารวัตรทหาร ที่มีป้อมอยู่ไม่ห่างจากที่ตั้งของตู้เอทีเอ็มมากนัก ว่าก่อเหตุดังกล่าว เพื่อต้องการไปอยู่ในคุก
เนื่องจากตนติดเกม ติดอินเทอร์เน็ต ดูหนัง ดูยูทูบ พบว่าไปอยู่ในคุกในเรือนจำสบาย ไม่มีใครสามารถทำอะไรเราได้ และยอมรับว่าเลียนแบบการก่อเหตุมาจากภาพยนตร์ในโลกโซเชียล เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวทั้งสอง นำส่ง พ.ต.ท.จรินทร์ ขาวเอี่ยม รองผกก.(สอบสวน)สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ทำการสอบสวน
การสอบสวน น.ส.สุวรรณี ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันก่อเหตุดังกล่าวกับ ด.ช.จริง โดยได้รับการชักชวนจาก ด.ช.เอ ให้เป็นคนดูต้นทาง ทั้งนี้ พ.ต.ท.จรินทร์ระบุว่า สำหรับ ด.ช.เอ ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการประสานพนักงานอัยการ และเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพมาร่วมสอบปากคำ จากนั้นจะนำตัวส่งสถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครศรีธรรมราช
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจสอบคดีงัดตู้เอทีเอ็ม คดีงัดเงินตู้เติมเงิน ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ทั้งในพื้นที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช และ สภ.ใกล้เคียง ตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาทั้งสองอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยเฉพาะพฤติกรรมของ ด.ช.เอ ที่สารวัตรทหารให้การว่า ก่อนก่อเหตุในช่วงเช้าวันเดียวกัน ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาตระเวนวนเวียนในย่านดังกล่าวหลายครั้ง.