คนไทยที่ติดค้างในมาเลเซีย ยังคงเดินทางกลับไทยอย่างต่อเนื่อง จนรอคิวยาวเหยียดกว่า 300 เมตรถึงหน้าด่านสะเดา จ.สงขลา โดยมีการแจ้งชื่อผ่านกงสุลวันนี้ 1,500 คน แต่มียอดรวม 3 พันคน นอภ.สะเดา ทหาร จัดครัวมอบอาหารรับประทานฟรี พร้อมรถส่งถึงที่

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 เม.ย.63 ที่หน้าด่านสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา คนไทยที่ยังติดค้างอยู่ในประเทศมาเลเซีย ได้ลงชื่อผ่านสถานทูตไทยและกงสุลไทยในมาเลเซีย ได้เดินทางมาถึงด่านบูกิตกายูอิตั้ม รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อตอนเช้าด้วยรถบัสจำนวน 10 คัน และรถยนต์ส่วนตัวจำนวนหนึ่ง และยังมีคนไทยทยอยเดินทางมาจากรัฐต่างๆ อีกจำนวนมาก เดินเท้ามายังหน้าด่านสะเดา ซึ่งมีจุดที่พักหน้าด่าน ก่อนจะตรวจสอบรายชื่อ และผ่านจุดคัดกรองเข้าด่านสะเดาครั้งละ 10 คน ส่งผลให้ท้ายแถวที่รอคิวยาวกว่า 300 เมตร ท่ามกลางอากาศร้อนส่งผลให้บางคนถึงกับเป็นลม

คนไทยหลายคนบอกว่าเดินทางกลับบ้านด้วยความราบรื่น ทางประเทศมาเลเซียให้ความร่วมมือดีมาก ขั้นตอนการขอใบรับรองแทพย์ก็สะดวกรวดเร็ว แต่ต้องแจ้งชื่อกับสถานทูตและกงสุลก่อนเดินทาง จะได้รับความสะดวกรวดเร็วจนถึงหน้าด่าน

...

นายชวกิจจ์ สุวรรณคีรี นายอำเภอสะเดา พร้อมด้วย นายรัชฏา จิวาลัย กงสุลใหญ่ ประจำรัฐปีนัง ที่เดินทางมาติดตามการช่วยเหลือคนไทย มาคอยอำนวยความสะดวกที่ด่านสะเดา โดยมีครัวอาสาของ ทหาร จากกรมทหารราบที่ 5 (ร.5) มาบริการทำอาหารให้คนไทยรับประทานฟรี และบริการจัดรถตู้ส่งถึงที่หมาย พร้อมหนังสือรับรองจากสาธารณสุขจังหวัดสงขลา และขนส่งทางบก ให้กับคนขับรถในการอำนวยความสะดวก

นายอำเภอสะเดา เปิดเผยว่า ตัวเลขคนไทยที่แสดงตัวเพื่อขอเดินทางกลับประเทศไทยผ่านทางสถานทูตและกงสุลวันนี้ที่อยู่ 1,500 คน แต่คาดว่าคนไทยเดินทางมาจริงมากกว่าตัวเลขที่แจ้งไว้ ส่วนใหญ่คนไทยได้เปลี่ยนเส้นทางมาเข้าที่ด่านสะเดา จ.สงขลา เนื่องจากสามารถนำรถยนต์ส่วนตัวกลับมาได้ และจังหวัดสงขลายังไม่ปิดเมือง สามารถเดินทางต่อไปยังจุดหมายต่างๆ ได้

ด้าน นางบังอร ศรีจันทร์ สาธารณสุข อำเภอสะเดา ได้นำทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จำนวน 30 คน มาประจำที่หน้าด่านสะเดา พร้อมร่วมกับอาสาสมัครทำการคัดกรองอย่างเข้มข้น ทำงานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 1 เดือนโดยไม่มีวันหยุด เพื่อให้อำเภอสะเดาปลอดเชื้อโควิด.