ทีมวิจัยจาก มอ.สงขลา พัฒนากล่องฆ่าเชื้อโรคโดยใช้กระบวนการผ่านแสงยูวี ที่เป็น UVC เพื่อฆ่าเชื้อโควิด-19 ที่สังคมกำลังกังวลว่าจะมีการแพร่กระจายบนธนบัตรที่เปลี่ยนมือไปมา ที่ใช้ต้นทุนไม่แพง

เมื่อวันที่ 2 เม.ย.63 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จุมพล ชื่นจิตต์ศิริ รองอธิการบดีฝ่ายกฎหมายและบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยได้ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (COVID-19) โดยได้ใช้ศักยภาพทางวิชาการจากทุกสาขาที่มีอยู่ เพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อโรคให้มีประสิทธิภาพที่สุด จะเห็นได้จากการปฏิบัติงานของคณะวิชาด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม จากความกังวลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับชาติที่ให้ความกังวลว่า เชื้อโรคดังกล่าวสามารถแพร่กระจ่ายผ่านธนบัตร ซึ่งมีการใช้เปลี่ยนมือกันตลอดเวลา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จึงได้ประสานงานกับคณาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ เพื่อหาทางแก้ปัญหาดังกล่าวที่ไม่ยุ่งยาก ลงทุนต่ำ สามารถทำใช้เองในครอบครัว แต่ต้องใช้ความระมัดระวังในการสัมผัสกับบางส่วนในขบวนการฆ่าเชื้อเท่านั้น

...

ทั้งนี้ได้คิดค้นกระบวนการฆ่าเชื้อโรคในธนบัตร โดยใช้กล่องรังสีอัลตราไวโอเลต หรือรังสี UV ในรูปแบบของ UVC และด้วยอุปกรณ์ง่ายๆ คือหลอดรังสี UV สำเร็จรูป หาซื้อได้ตามร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปซึ่งมีหลายขนาด กล่องที่นำมาใช้จะเป็นกล่องกระดาษทั่วไปก็ได้ โดยภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าจะมีการใช้ฟิวส์ป้องกันอันตรายหากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร และใส่แผนฟลอยด์โลหะ เพื่อเป็นตัวสะท้อนรังสียูวีให้กระจายทั่วถึง มีระบบนิรภัย คือ แสงจะส่องได้ต่อเมื่อเปิดกล่องเท่านั้น มีช่องแสงเล็กน้อยเพื่อให้เห็นว่าหลอดไฟทำงาน โดยแสงยูวีจากหลอดยูวีซีมีการใช้กันในเครื่องกรองน้ำ สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ แต่จะอันตรายเมื่อสัมผัสกับร่างกายและสายตา จึงออกแบบอุปกรณ์โดยทำเป็นกล่อง เมื่อจะใช้ให้ใส่ธนบัตรแล้วปิดฝา ใช้เวลาฆ่าเชื้อ 15 นาที

อุปกรณ์ดังกล่าวสามารถดัดแปลงเพื่อใช้ฆ่าเชื้อโรคในหน้ากากที่ใช้แล้ว โดยใช้หลอดยูวี 2 หลอด เพื่อสามารถฆ่าเชื้อได้ทั้ง 2 ด้าน และปัจจุบันสำนักทรัพยากรการเรียนรู้คุณหญิงหลง อรรถกระวีสุนทร ที่วิทยาเขตหาดใหญ่ กำลังดัดแปลงเพื่อใช้ฆ่าเชื้อโรคในหนังสือที่มีการยืมคืนตลอดเวลา โดยจัดทำเป็นระบบสายพานผ่านแสงยูวี

ปกติมีการใช้รังสียูวีในการฆ่าเชื้อโรคในอุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือในบางประเทศใช้ฆ่าเชื้ออุปกรณ์ในร้านเสริมสวย แต่ที่ได้มีการคิดค้นขึ้นนี้เป็นกรรมวิธีง่ายๆ โดยประชาชนทั่วไปสามารถทำเองได้ ต้นทุนอยู่ระหว่าง 600-1,000 บาท แล้วแต่ขนาดและคุณภาพของกล่อง อย่างไรก็ตามมหาวิทยาลัยกำลังร่วมมือกับวทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ เพื่อผลิตกล่องดังกล่าวให้ประชาชนทั่วไปนำไปใช้ ซึ่งวิธีการนี้มีการใช้อยู่ทั่วไป เพียงแต่ยังไม่มีการดัดแปลงเพื่อรับกับสถานการณ์ในปัจจุบันเท่านั้น.