รอง ผวจ.ภูเก็ต เผยกรณีหมอแจ้งความ ผอ.รพ.วชิระภูเก็ต ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่แยกตรวจผู้ต้องสงสัยโควิด -19 กับผู้ป่วยทั่วไปไม่เป็นความจริง มีการแยกตรวจชัดเจน และอยู่ระหว่างการสร้างห้องแยกเพิ่มอีก 7 ห้อง เตรียมแถลงรายละเอียดบ่ายนี้
สืบเนื่องจากกรณีมีแพทย์หญิงคนหนึ่งได้เข้าพบ ร.ต.อ.อุดม เพ็ชรรัตน์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ นพ.เฉลิมพงศ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และ พ.ญ.ศุภลักษณ์ ละอองเพชร รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลฝ่ายการแพทย์ โดยกล่าวหาว่า เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติ หรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตเป็นเหตุให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อสาธารณชน เหตุเกิดปลายเดือนมกราคม 2563 ต่อเนื่องจนถึงวันที่ 1 มีนาคม 2563 (อ่าน เป็นเรื่อง หมอแจ้งความผอ.วชิระภูเก็ต ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เสี่ยงแพร่เชื้อโควิด-19)
จากการสอบถาม นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เกี่ยวกับประเด็นดังที่มีหมอภูเก็ตแจ้งความดำเนินคดีกับ ผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต บอกว่า ทราบเรื่องแล้ว โดยได้รับรายงานจากผู้อำนวยฯ ซึ่งในส่วนของภูเก็ต นับจากเกิดสถานการณ์ดังกล่าว จังหวัดภูเก็ต โดย นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินจังหวัดภูเก็ต (Emergency Operation Center: EOC) โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ขึ้นที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2563 เพื่อติดตามสถานการณ์และการดำเนินการตรวจคัดกรอง เฝ้าระวังของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของโรคดังกล่าวตั้งแต่ระดับโลก ระดับประเทศและระดับจังหวัด
...
ในส่วนของโรงพยาบาลได้มีการจัดศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ เพื่อทำการตรวจคัดกรองผู้ป่วยที่มีอาการต้องสงสัยและมาตรวจรักษาโดยเฉพาะ มีเจ้าหน้าที่รับเรื่อง ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ตรวจเช็กอาการเบื้องต้น และสอบถามประวัติผู้ป่วยเบื้องต้น แยกออกมาจากตัวอาคารของผู้ที่มาตรวจปกติ เพื่อจะได้ไม่ไปปะปนกันในตัวอาคารที่ตรวจผู้ป่วยปกติ หากพบต้องสงสัยว่าเข้าข่าย จะมีการนำตัวไปที่ห้องพักชั่วคราว หรือห้องความดันลบหรือห้องเน็กกะทีฟเพรชเชอร์ เพื่อทำการเก็บตัวอย่างเลือดไปตรวจสอบ จากนั้น นำตัวขึ้นรถปิดมิดชิดไปยังห้องพักพิเศษต่างหาก เพื่อรอผลการวิเคราะห์ ซึ่งตนก็ได้ไปติดตามอยู่ตลอด และล่าสุดเพิ่งเข้าไปเมื่อเย็นวานนี้ (2 มี.ค.63)
นายพิเชษฐ์ กล่าวยืนยันว่า จากที่มีการกล่าวหาว่า ไม่มีการแยกตรวจระหว่างผู้ป่วยต้องสงสัยกับผู้ป่วยปกตินั้น ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะตนได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตัวเอง และในส่วนของห้องสำหรับให้ผู้ป่วยต้องสงสัยเพื่อรอดูอาการนั้นก็มีการจัดห้องไว้โดยเฉพาะ ซึ่งจังหวัดภูเก็ต โดยผู้ว่าราชการจังหวัด พยายามจัดหางบประมาณเพื่อทำการปรับปรุงห้องเดี่ยวเพื่อให้เป็นห้องแยกโรคโดยเฉพาะ อยู่ระหว่างดำเนินการและยังไม่แล้วเสร็จ จำนวน 7 ห้อง นอกจากห้องที่มีอยู่แล้วจำนวนหนึ่ง ซึ่งทางโรงพยาบาลได้มีการดำเนินการอย่างเต็มที่ และแก้ปัญหากันมาโดยตลอด
"ขณะนี้ได้สั่งการให้ทุกโรงพยาบาลในส่วนของรัฐดำเนินการเช่นเดียวกัน คือ การแยกตรวจผู้ป่วยต้องสงสัยกับผู้ป่วยปกติ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลป่าตองหรือโรงพยาบาลถลาง เพราะการจะนำผู้เข้าข่ายต้องสงสัยไปไว้เฉพาะโรงพยาบาลใดโรงพยาบาลหนึ่ง อาจจะเป็นการยาก และหากชัดเจนเกินไปก็จะกลายเป็นที่รังเกียจของประชาชนทั่วไปได้ จึงพยายามแยกผู้ป่วยต้องสงสัยกับผู้ป่วยทั่วไปไว้เป็นสัดส่วนชัดเจน ซึ่งที่ผ่านมาทางผู้อำนวยการฯ ได้ ชี้แจงประเด็นดังกล่าวให้ผู้เกี่ยวข้องทราบแล้ว และรายงานให้ผู้ว่าฯ ทราบตลอด ยืนยันว่าที่ผ่านมาได้ดำเนินการตามขั้นตอนมาโดยตลอด"รอง ผวจ.ภูเก็ต กล่าว
ขณะที่ พ.ต.ท.ชนะ สุทธิมาศ รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของตำรวจได้สอบปากคำผู้แจ้งเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้จะส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. เพื่อจะให้ดำเนินการต่อไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ (3 มีนาคม 2563) ทางจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จะมีการแถลงข่าว ประเด็น “หมอภูเก็ต” แจ้งความ ผอ. และ รองผอ.รพ.วชิระภูเก็ต ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ป้องกันโควิด-19 ณ ห้องประชุมฉัตรฟ้า ชั้น 6 อาคารบ้านคุณพุ่ม รพ.วชิระภูเก็ต