กมธ.ดีอีเอส ลงพื้นที่สนามบินชุมพร พบปัญหาคลื่นวิทยุชุมชนรบกวนวิทยุการบิน "กัลยา" เตรียมเชิญ "ก.ดีอีเอส-กสทช.-เฟซบุ๊ก” หารือวางแนวแก้ปัญหาไลฟ์สดกราดยิง

เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2563 ที่ จ.ชุมพร คณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ กมธ.ดีอีเอส นำโดย น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ, นายสราวุธ อ่อนละมัย ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการฯ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ จ.ชุมพร เพื่อศึกษาดูงานศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย และศูนย์อบรมด้านการบินของสถาบันการบินเอเชีย จ.ชุมพร 

โดย น.ส.กัลยา กล่าวภายหลังการศึกษาดูงานว่า การลงพื้นที่ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการ ด้านการสื่อสารของการบินระหว่างสถานีภาคพื้นดิน กับเครื่องบินที่จะขึ้นลงสนามบินชุมพร อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ ได้รับเรื่องจากวิทยุชุมชนว่า ทาง กสทช.ไม่อนุญาตให้ดำเนินการในบางพื้นที่ เนื่องจากคลื่นวิทยุไปรบกวนวิทยุการบิน ดังนั้นทางกรรมาธิการฯ จึงได้ลงพื้นที่จริงเพื่อรับทราบข้อมูล ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ควบคุมการบิน ก็ยอมรับว่าคลื่นวิทยุชุมชนมีการรบกวนวิทยุการบินจริง แต่ตอนนี้มีจำนวนลดลงแล้ว อาจจะด้วยการแก้ปัญหาไปบางส่วน

อย่างไรก็ตามผลกระทบจาการรบกวนมี 2 ลักษณะ คือ 1.การรบกวนการสื่อสาร มีทั้งทำให้การสื่อสารระหว่างผู้ควบคุมจราจรทางอากาศกับนักบินรับฟังไม่ชัด หรือทำให้การสื่อสารรับฟังไม่สามารถติดต่อกันสื่อสารกันได้ 2.การรบกวนเครื่องช่วยการเดินอากาศ (Localizer และ VOR) ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยในการนำเครื่องเข้ามาลงในสนามบิน ซึ่งจากสถิติของบริษัทวิทยุการบินฯในปี 2562 มีการรบกวนการบินจากวิทยุชุมชนที่รายงานจากสนามบินทั่วประเทศจำนวน 381 ครั้ง ซึ่งทางกรรมาธิการฯ เห็นความสำคัญกับปัญหาดังกล่าว ซึ่งเกี่ยวพันกับความปลอดภัยด้านการบิน และมีความเห็นใจกับผู้ประกอบการวิทยุชุมชนเช่นกัน โดยกรรมาธิการฯ จะได้ช่วยผลักดันหาแนวทางแก้ปัญหาที่ยั่งยืน ให้เกิดความปลอดภัยและกระทบต่อการ ทำวิทยุให้น้อยที่สุดต่อไป

...

ด้าน นายสราวุธ กล่าวว่า ตนเองในฐานะที่เป็นคนพื้นที่ได้รับทราบปัญหาเรื่องนี้อยู่ตลอด และได้ช่วยในการประสานหาแนวทางแก้ไข แต่ยังมีอุปสรรคอยู่บ้างเนื่องจากไม่ได้รับความร่วมมือในการแก้ปัญหาจากสถานีวิทยุชุมชน บางคนอ้างว่าไม่ทราบ ไม่มีช่าง ไม่มีงบประมาณในการแก้ไข หรือบางสถานีไม่เชื่อว่ามีการรบกวนวิทยุการบิน แม้จะได้หนังสือเตือนจากสำนักงาน กสทช. ดังนั้นเมื่อกรรมาธิการฯได้มาลงพื้นที่รับทราบปัญหา ซึ่งเราเห็นใจทั้งสองฝ่าย แต่ความปลอดภัยในการบินก็มีความสำคัญ ซึ่งกรรมาธิการฯ จะได้เข้ามาช่วยแก้ปัญหา หรืออย่างน้อยก็จะช่วยทำความเข้าใจกับสถานีวิทยุชุมชน ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่ามีความสำคัญต่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนที่ใช้สนามบินจริงๆ 

นอกจากนี้ น.ส.กัลยา ยังกล่าวถึงเหตุการณ์ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ใช้อาวุธปืนยิงประชาชนเสียชีวิตหลายราย ที่ จ.นครราชสีมา และมีการใช้โซเชียลมีเดียระหว่างก่อเหตุว่า กรรมาธิการฯ มีความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น โดยทางกรรมาธิการฯ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ติดตามสถานการณ์ตลอดทั้งคืนด้วยความเป็นห่วง และเห็นว่ามีการใช้โซเชียลมีเดียของคนร้ายในการไลฟ์สด ซึ่งเป็นการเร่งเร้าสถานการณ์ให้แย่ลง ดังนั้นทางกรรมาธิการฯ จะได้เชิญกระทรวง ดีอีเอส กสทช. และ เฟซบุ๊ก (ประเทศไทย) ในสัปดาห์หน้า เพื่อมาประชุมหารือวางแนวทางป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีก 

น.ส.กัลยา กล่าวถึงการทำหน้าที่ของสื่อที่มีการไลฟ์สดรายงานสถานการณ์ ว่า ตนเข้าใจการทำงานสื่อมวลชนที่อยากนำเสนอข่าวให้รวดเร็ว แต่บางครั้งการไลฟ์สดจะทำให้คนร้ายติดตามสถานการณ์ภายนอกได้ เพราะคนร้ายใช้โซเชียลฯ เก่งมาก จึงเป็นอันตรายมาก เพราะคนร้ายจะรู้เหตุการณ์ทั้งหมดแล้วจะวางแผนรับมือได้ ตนจึงอยากจะวอนนักข่าวว่า การให้ข่าวที่ละเอียดต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และตัวประกัน ทราบว่าเหตุการณ์เมื่อวานทางเฟซบุ๊ก ได้มีการปิดไลฟ์ทันที แต่ต่อไปต้องมีมาตรการที่รวดเร็วกว่านี้