หมอนวดสาววัย 45 ปี ร้องศูนย์ดำรงธรรมท้ายเหมือง อ้างถูกชวนทำงานนวดในร้านคาราโอเกะ แต่โดนบังคับให้ขายบริการทางเพศด้วย ไม่ยอมเลยหนีออกมา ขอความช่วยเหลือ จนท. เพราะ จนท.ท้องถิ่นรู้เห็นเป็นใจ
เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา เข้าช่วยเหลือ นางกุ้ง (นามสมมติ) อายุ 45 ปี ชาวมหาสารคาม เข้าแจ้งขอความช่วยเหลือต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอท้ายเหมือง ภายในที่ว่าการอำเภอท้ายเหมือง ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา โดยมี นายวีรพัฒน์ สังข์เจริญ หน.ฝ่ายศูนย์ดำรงธรรมอำเภอท้ายเหมือง
นางกุ้งผู้ร้องเรียน ระบุว่า ถูกเจ้าของสถานบริการแห่งหนึ่งในพื้นที่ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ชักชวนทำงานนวดแผนโบราณ เมื่อวันที่ 26 ม.ค.63 ที่ผ่านมา ได้เดินทางเข้าทำงานพบว่า ร้านดังกล่าวเป็นร้านคาราโอเกะ มีการดัดแปลงห้องพักพนักงานในร้านเป็นสถานที่นวด จากนั้นถูกใช้ให้ต้อนรับลูกค้าและให้บริการทางเพศ ขณะที่ตนเองไม่ยินยอม จนตัดสินใจออกจากร้านโดยมีกลุ่มชายวัยรุ่นติดตามเข้าข่มขู่ ทำให้หวาดกลัวจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ขอความช่วยเหลือ พร้อมระบุหน่วยงานความปลอดภัยในพื้นที่ไม่สามารถพึ่งพาได้กลับรู้เห็นเป็นใจร่วมกับสถานบริการ จึงได้เข้าขอความช่วยเหลือจากชุมชนในพื้นที่ จนได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
...
ผู้ร้องเรียน กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน ผู้แจ้งมีความรู้สึกว่าถูกหลอกให้มาทำงาน โดยแท้จริงต้องการทำงานนวดโดยใช้ฝีมือที่มีอยู่ ไม่ใช่ให้บริการทางเพศแก่ลูกค้า แม้จะแลกเงินน้อยนิดกับค่าแรง โดยที่เข้าแจ้งต่อศูนย์ดำรงธรรมครั้งนี้เนื่องจากต้องหารให้มีการตรวจสอบการเปิดสถานบริการดังกล่าว เนื่องจากไม่ต้องการให้มีหญิงสาวถูกหลอกเข้าทำงานด้วยความไม่เต็มใจ จากนั้นทางบ้านพักเด็กและครอบครัวให้การช่วยเหลือเบื้องต้นพร้อมส่งตัวกลับภูมิลำเนาต่อไป
ขณะที่ นางกุ้ง กล่าวว่า ถูกเพื่อนที่รู้จักกันมากว่า 6 ปี ชักชวนเข้าทำงานโดยบอกว่าที่ร้านต้องการพนักงานนวดฝีมือดีๆ จึงตัดสินใจเดินทางเข้าพังงา แต่เมื่อเข้าทำงานพบว่าภายในร้านเป็นลักษณะร้านคาราโอเกะ มีหญิงสาวหลายคน กระทั่งเจ้าของร้านสั่งให้ตนเองขึ้นไปต้อนรับลูกค้าในห้องพักด้านบนของร้าน ซึ่งตนเองไม่ยินยอม เพราะทราบว่าการให้บริการลูกค้าในห้องพักต้องมีบริการทางเพศจึงปฏิเสธ ทำให้เจ้าของร้านต่อว่าอย่างเสียหาย จนตนเองต้องเดินออกจากร้าน สักพักมีกลุ่มชายวัยรุ่นเข้ารุมถ่ายรูปลงสื่อโซเชียล ทำให้ตนเองเสียหาย พร้อมขู่อาฆาตหมายทำร้ายร่างกายอีกด้วย.