เจ้าท่าพังงาร่วมปฏิบัติการค้นหาลูกเรือสปีดโบ๊ตที่สูญหายไร้วี่แวว พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเหตุ เรือสปีดโบ๊ต ชน เรือยอชต์ต่างชาติ ก่อนดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.การเดินเรือต่อไป

กรณี ความคืบหน้า ผู้ประกอบการนำเที่ยวในพื้นที่ กว่า 30 คน ระดมเรือนำเที่ยว เรือประมง และเจ็ตสกี กว่า 10 ลำ ออกทำการค้นหาลูกเรือสปีดโบ๊ตท่องเที่ยวชนกับเรือยอชต์สัญชาติอังกฤษ ใกล้กับเกาะไข่นุ้ย อ.เกาะยาว จ.พังงา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บจำนวนหนึ่งและเด็กประจำเรือจมน้ำสูญหาย 1 คน เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (18 ธันวาคม )

ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทาง นายณชพงศ ประนิตย์ ผจภ.5 พังงา มอบหมายให้นายผจญ กิตตินนทิกร เจ้าพนักงานตรวจท่าปฏิบัติการ พร้อมเจ้าหน้าที่นำเรือยนต์ตรวจการณ์เจ้าท่า 199 ร่วมกับ จังหวัดพังงา ตำรวจน้ำ ทหารเรือ ตำรวจท่องเที่ยว อำเภอเกาะยาว ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพังงา อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา เทศบาลพรุใน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้กอบการในพื้นที่ ปฏิบัติการค้นหา นายกิตติพงษ์ สมันบุตร ลูกเรือ บรรทุกคนโดยสาร (เรือเร็ว) โชคศุภสาร ซึ่งสูญหายขณะเกิดอุบัติเหตุโดนกับเรือสำราญกีฬา STALLION บริเวณเกาะไข่นุ้ย ต.พรุใน อ.เกาะยาว จ.พังงา

...


สอบถามข้อมูลเบื้องต้นคาดว่า เรือยอชต์ ออกเดินทางจากเกาะไข่นอก มุ่งหน้าไปที่อ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า และเรือเร็ว (Speed Boat)ออกจากเกาะไข่ใน มุ่งหน้าไปยังท่าเรือเอกชนชื่อท่าเรือ เอเอ แหลมหงา เกาะสิเหร่ ต.รัษฏา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ในลักษณะ เรือเดินตัดทางกัน (Crossing มุมการตัดทางเป็นลักษณะเข็มสอบ) ตามกฎการเดินเรือที่กำหนด เรือยอชต์ ซึ่งจะมีเรือเร็ว (Speed Boat) อยู่ทางกราบขวา เรือยอชต์ดังกล่าว ต้องมีหน้าที่ ในการทำการหลบหลีก และเรือเร็ว (Speed Boat) ถือเป็นเรือซึ่งต้องคงเข็มและความเร็วเรือ


ด้านนายนายณชพงศ ประนิตย์ ผจภ.5 พังงา กล่าวว่า ขณะนี้ ได้ตั้งกรรมการเข้าตรวจสอบเหตุที่เกิดขึ้นเพื่อ หามูลเหตุข้อเท็จจริง โดยการสอบปากคำผู้อยู่ในเหตุการณ์ทุกฝ่าย จากนั้นจะได้ดำเนินการตามกฎหมาย ตามความผิดของ พ.ร.บ.การเดินเรือ ควบคู่กับการค้นหาตัวผู้สูญหาย โดยยังมีความหวังว่าจะพบตัว นายกิตติพงษ์ สมันบุตร ลูกเรือสปีดโบ๊ตท่องเที่ยว.