จ.ส.อ. ฉลองเบิร์ธเดย์วันเดียวกับพิธีฌาปนกิจเพื่อนรักสมัยเรียนที่พังงา นำเค้กวันเกิดมาตัดหน้าโลงศพ บอกถ้าแลกชีวิตขอตายแทน เพราะตัวเองโสดไม่มีครอบครัว เพื่อให้เพื่อนได้อยู่ดูแลแม่และลูก
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 19 พ.ย.62 ที่วัดเหมืองประชาราม ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา มีการจัดเตรียม พิธีฌาปนกิจศพ นายสุทธิวงศ์ สุดสวาท หรือ เปี๊ยก ไกด์นำเที่ยว อายุ 52 ปี ที่ถึงแก่กรรมด้วยโรคไตวาย โดยมีญาติมิตร เพื่อนบ้าน และเพื่อนๆ มาร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ศพจะเข้าสู่เมรุเชิงตะกอน โดยภายในงานมีเพื่อนร่วมรุ่นสมัย เรียนชั้นมัธยมศึกษา ห้อง 7 ภูเก็ตวิทยาลัย รุ่นปี 2528 เดินทางจากต่างจังหวัด ทั้ง จ.ภูเก็ต และ จ.ระนอง มาร่วมไว้อาลัย แก่เพื่อนผู้ล่วงลับเช่นกัน ก่อนจะไปไหว้มารดา วัย 91 ปี ข้าราชการครูบำนาญ, ภรรยา และบุตรสาวอีก 2 คน โดยแม่ผู้ชรา ที่มาเสียบุตรชายคนเดียวที่สืบสกุล มาเสียชีวิตไปก่อน
...
ก่อนจะทำการฌาปนกิจ จ.ส.อ.กฤษดา เอกวานิช เพื่อนสนิทผู้ตาย ได้กล่าวชีวประวัติของผู้ล่วงลับ เพื่อรำลึกถึงคุณความดีต่างๆ ที่ผู้ล่วงลับเคยกระทำไว้ และกล่าวว่า เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เพื่อนเปี๊ยก ที่เป็นได้ทุกอย่าง เป็นเพื่อนรัก เพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว และสุดท้ายก็เพื่อนตาย ก่อนหน้านี้ เพื่อนเปี๊ยกได้ซื้อเค้กมาเป่าฉลองวันเกิดและฉลองยศสิบเอกให้ที่ จ.ภูเก็ต เรากินเราเที่ยวช่วงเป็นหนุ่มวัยรุ่น กันอย่างสนุก ก่อนแยกย้ายกันทำงานไม่มีโอกาสมาพบกันอีกเลย ส่วนตนก็ครองความเป็นโสดไม่เคยมีใครซื้อเค้กมาฉลองวันเกิดให้อีกเลย
จากนั้นมีการทำเซอร์ไพรส์ เพื่อนรักของผู้ตาย ที่ครบวันคล้ายวันเกิด อายุ 52 ปี ในวันที่จะต้องเผาร่างเพื่อนสมัยเรียน โดยมีเพื่อนร่วมชั้นเรียน ถือเค้กวันเกิดมาให้เป่าเทียนพร้อมอวยพร แม้ไม่มีการร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ แต่มีการขอพรจากเจ้าของวันเกิด ให้เพื่อนๆ ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง และหากเป็นไปได้ขอแลกชีวิตตนกับเพื่อนให้ตายแทนเนื่องจากตนยังโสด แต่เพื่อนผู้ตายยังมีครอบครัว มีแม่ที่ชราและลูกเมียที่ต้องดูแลอยู่ ก่อนตัดแบ่งเค้ก ให้กับมารดาเพื่อนที่เสียชีวิต และเพื่อนๆ ไม่ลืมที่จะตัดเค้กก้อนสุดท้าย ไปเคาะโลงให้เพื่อนได้ทานเค้กวันเกิดร่วมกัน ทั้งขอให้เพื่อนเปี๊ยกไปสู่ภพภูมิที่ดี หากชาติหน้ามีจริง กลับมาเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกันอีก
จากนั้นพระสงฆ์ 1 รูป เป็นผู้นำในการเคลื่อนขบวนแห่ศพสู่เมรุ 3 จ.ส.อ.กฤษดา เอกวานิช เป็นคนถือรูปถ่ายเพื่อน นำหน้าศพที่เพื่อนช่วยกันหาม ตามด้วยเจ้าภาพ และเครือญาติ เพื่อไว้อาลัยแก่ผู้ล่วงลับ และเป็นปริศนาเกี่ยวกับกฎไตรลักษณ์ที่ว่า “อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา” หรือการเวียนว่ายตายเกิดของสัตว์ทั้งสามภพ คือ ในโลก นรก และสวรรค์ ก่อนนำศพขึ้นตั้งบนเมรุ จากนั้นเจ้าภาพจึงจะเชิญแขกผู้ร่วมงานนำดอกไม้จันทน์และธูปเทียนสำหรับขอขมาศพ เพื่อรอประชุมเพลิง เป็นอันสิ้นสุดพิธีเผาศพเพื่อนรักที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ.