ไปมอบตัวโรงพัก

อดีตกำนันปืนโหดบุกยิงล้างครัว 3 ศพ หญิงเจ้าของสวนทุเรียนพร้อมลูกสาวและหลานสาวคนกลางวัย 13 ปีดับสยองคาบ้าน ส่วนหลานสาวคนโตวัย 15 ปีกับหลานชายคนเล็กวัย 12 ปี พากันวิ่งเผ่นหนีรอดหวุดหวิด หลังก่อเหตุขับรถกระบะไปมอบตัวที่โรงพัก อ้างปมแค้นถูกเบี้ยวหนี้ที่ผู้ตายยืมเงินไปลงทุนทำสวนทุเรียนและกล้วยหอมทองเมื่อ 4 ปีก่อนกว่า 10 ล้านบาท ทยอยจ่ายจนเหลือ 8 ล้านบาทแต่ผัดผ่อนเรื่อยมา ประกอบกับตัวเองเดือดร้อนเรื่องเงินจะถูกยึดที่ดินที่เอาไปจำนองเลยมาทวงถามกลับถูกบ่ายเบี่ยง ทำเอาฉุนฟิวส์ขาดชักทูตมรณะ 9 มม. กระหน่ำยิงเรียงตัวไม่เว้นแม้แต่เด็กหญิงตัวน้อยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ที่นั่งกินข้าวอยู่ในครัว ยังโชคดีที่เด็กอีก 2 คนพี่น้องนั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วยกันวิ่งหนีรอดออกมาได้

แค้นเบี้ยวหนี้ อดีตกำนันปืนโหดบุกยิงล้างครัว 3 ศพเปิดเผยเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 9 พ.ย. ร.ต.ท.นันทิยา รักดี รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองชุมพร รับแจ้งเหตุคนถูกยิงตาย 3 ศพที่บ้านเลขที่ 9/2 ซอยขุนศรี หมู่ 7 ต.ขุนกระทิง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ภัคพล ทวิชศรี รอง ผบก.ภ.จ.ชุมพร พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สส.ภ.จ.ชุมพร พ.ต.ท.ปนินทร โชติ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ต.ชนะภัย บุญนาค สวป. นำกำลังตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพร ไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวหลังใหญ่ บริเวณโดยรอบเป็นสวนทุเรียนและกล้วยหอมทองรวมพื้นที่กว่า 15 ไร่ ที่โรงจอดรถหน้าบ้านมีรถเก๋ง โตโยต้าวีออส สีบรอนซ์ ทะเบียน กง 585 ชุมพร จอดอยู่ บริเวณโต๊ะรับแขกใกล้ประตูบ้านพบผู้เสียชีวิต 2 ศพนอนจมกองเลือดที่พื้นทราบชื่อนางจินดา ทองพรหม อายุ 61 ปี เจ้าของบ้าน ถูกยิงด้วยปืน 9 มม.ที่ใบหน้า 3 นัด ส่วนอีกศพอยู่ใกล้กันคือนางพรทิพย์ ทองพรหม อายุ 38 ปี ลูกสาวของนางจินดา ถูกยิงด้วยปืนขนาดเดียวกันที่ใบหน้า 2 นัด

...

ภายในห้องครัวในบ้านพบผู้เสียชีวิตศพที่สามคือ ด.ญ.นัยปพร ภูวิชิต อายุ 13 ปี ลูกสาวของนางพรทิพย์นอนจมกองเลือดอยู่ใต้โต๊ะรับประทานอาหาร ถูกยิงที่ศีรษะและใบหน้ารวม 5 นัด บนโต๊ะมีจานข้าว 3 จานพร้อมกับข้าววางอยู่ ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนตกเกลื่อนกลาดตั้งแต่หน้าบ้านเข้าไปถึงในบ้านกว่า 10 ปลอก ตำรวจเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีผู้รอดชีวิต 2 คนเป็นเด็กหญิงอายุ 15 ปีและเด็กชายอายุ 12 ปีพี่น้องกันเป็นลูกของนางพรทิพย์ วิ่งหนีได้ทันขณะคนร้ายไล่ยิงไม่เลือกหน้า ออกไปขอความช่วยเหลือจากญาติในละแวกใกล้เคียง ส่วนมือปืนผู้ก่อเหตุคือนายสุนันท์ รามดร หรือกำนันไข่ อายุ 65 ปี อดีตกำนัน ตำบลขุนกระทิง อยู่บ้านเลขที่ 26/1 หมู่ 7 ต.ขุนกระทิง อ.เมืองชุมพร ขับรถกระบะไปมอบตัวที่ สภ.เมืองชุมพร พร้อมปืน 9 มม.ที่ใช้ก่อเหตุ

สอบสวนนายอนนต์ ภูวิชิต อายุ 38 ปี สามีของนางพรทิพย์และเป็นลูกเขยนางจินดาผู้ตายกล่าวว่า ช่วงเช้าขับรถไปทำงานแถวสี่แยกปฐมพร ส่วนแม่ยายกับภรรยาเตรียมอาหารให้ลูกๆทั้ง 3 คนได้กินก่อนจะไปส่งที่โรงเรียน หลังไปถึงที่ทำงานได้ไม่นาน ลูกสาวคนโตโทรศัพท์มาบอกว่าแม่กับยายและน้องสาวคนกลางถูกกำนันไข่บุกมายิงตายทั้ง 3 คน ส่วนตัวเองกับน้องชายคนเล็กวิ่งหนีตายรอดออกมาได้อย่างหวุดหวิด ตกใจมากรีบขับรถกลับมาที่บ้านทันที สำหรับกำนันไข่ คนร้ายที่ก่อเหตุมีบ้านอยู่ห่างกันประมาณ 3 กม. เคยมาที่บ้านบ่อย เมื่อ 2 วันก่อนก็มาพูดคุยกับแม่ยายแต่ไม่ทราบว่าคุยเรื่องอะไรกัน

ด้านนายสุวพิศ เกตุสถิต ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.ขุนกระทิง กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุกำนันไข่มาพูดคุยปรึกษา ว่า นางจินดา ผู้ตายเป็นหนี้อยู่หลายล้านบาทไปทวงถามหลายครั้งก็ผัดผ่อนเรื่อยมา ตอนนี้เดือดร้อนเรื่องเงินไม่รู้จะไปหาที่ไหน ส่วนสาเหตุจะมาจากเรื่องอะไรไม่ทราบ

พ.ต.อ.ภัคพล ทวิชศรี รอง ผบก.ภ.จ.ชุมพร กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่าสาเหตุมาจากปัญหาเรื่องหนี้สินที่ผู้ตายกู้ยืมจากกำนันไข่ อย่างไรก็ตามจะต้องรอผลการสอบสวนผู้ต้องหาอย่างละเอียดอีกครั้ง

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายสุนันท์ รามดร หรือกำนันไข่ มาหานางจินดาเจ้าของบ้านเพื่อทวงหนี้ที่กู้ยืมไปลงทุนทำสวนทุเรียนและกล้วยหอมทองจำนวนกว่า 10 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2558 และได้ทยอยจ่ายเป็นเบี้ยหัวแตกมาเรื่อยๆจนเหลือประมาณ 8 ล้านบาท แต่นางจินดาบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา ประกอบกับช่วงหลังนายสุนันท์มีความเดือดร้อนเรื่องเงิน และที่ดินจำนองไว้จะถูกยึดจึงมาตามทวงหนี้อีก แต่ผู้ตายยังไม่มีให้จนเกิดมีปากเสียงกันขึ้นอย่างรุนแรง ชักปืนยิงใส่นางจินดาและนางพรทิพย์ลูกสาวที่นั่งอยู่ด้วยที่โต๊ะรับแขกหน้าบ้าน เพื่อรอขับรถเก๋งไปส่งลูกทั้ง 3 คนไปเรียนหนังสือชั้น ม.3 ม.1 และ ป.6 ที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในตัวเมืองชุมพร

หลังจากรัวยิงทั้ง 2 ศพที่หน้าบ้านแล้ว นายสุนันท์ถือปืนวิ่งเข้าไปในบ้าน กระหน่ำยิง ด.ญ.นัยปพร ที่นั่งกินข้าวอยู่กับพี่สาวและน้องชายจนเสียชีวิตเป็นศพที่สาม ท่ามกลางความตกตะลึงของพี่สาวและน้องชายที่นั่งกินข้าวอยู่ด้วยกันเห็นเหตุการณ์สยองขวัญต่อหน้าต่อตารีบพากันวิ่งเผ่นหนีออกทางประตูหลังบ้านรอดตายหวุดหวิด ไปขอความช่วยเหลือจากญาติในละแวกใกล้เคียง ก่อนที่นายสุนันท์จะขับรถกระบะไปมอบตัวที่ สภ.เมืองชุมพร ตำรวจอยู่ระหว่างสอบปากคำอย่างเคร่งเครียดก่อนควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีและจะต้องรอสอบปากคำพยานและญาติผู้ตายเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป