แม่วัย 24 ปี ที่สงขลา มีลูกสาวอายุ 6 ขวบ ตัวเองป่วยมีอาการทางจิตประสาท ขาดยา ใช้สากทุบลูกสาวตัวเองจนเสียชีวิต ห่มผ้านอนกอดศพบนที่นอน ยายกลับมา เรียกหลานไม่ยอมตื่น เปิดผ้าดูแทบช็อก

วันที่ 4 พ.ย. ที่ จ.สงขลา ได้เกิดเรื่องเศร้า เมื่อแม่สติไม่ดีได้ใช้สากกะเบือฆ่าลูกแท้ๆ ของตัวเอง โดย พ.ต.ท.วัชริน ตันเจริญรัตน์ สารวัตรสอบสวน สภ.สะเดา ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเสียชีวิต ตรวจภายในห้องเช่าในซอยศาลาทวด หมู่ 8 ต.ปริก อ.สะเดา จ.สงขลา พบร่างน้องเปีย เด็กหญิงอายุ 6 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอน ที่ใบหน้าถูกตีด้วยของแข็งจนเละ เลือดอาบร่างและที่นอน สภาพศพเพิ่งถูกทำร้าย ส่วนที่หน้าห้องนอนพบสากกะเบือเปื้อนเลือดตกอยู่ คาดว่าเป็นอาวุธที่ใช้ทำร้ายน้องเปีย

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ที่ก่อเหตุทำร้ายน้องเปียจนตายคือ นางสาวพร (นามสมมติ) อายุ 24 ปี แม่ของเด็ก ซึ่งมีอาการป่วยทางจิต หลังเกิดเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน ยังอยู่ภายในห้องนอน แต่จากการสอบถามไม่ยอมพูดคุย หรือให้การใดๆ นิ่งเฉยตลอด ตำรวจจึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.สะเดา

สอบถามยายของน้องเปีย และเป็นแม่ของนางสาวพร แม่ที่ฆ่าลูก เล่าว่า เวลาประมาณ 5 ทุ่มเมื่อคืนนี้ ตน กลับจากทำงานที่โรงงาน เมื่อมากลับมาถึงบ้านได้เคาะประตูเรียกนางสาวพรซึ่งเป็นลูกสาว ซึ่งเดินออกมาเปิดประตูให้ จากนั้นจึงเดินกลับเข้าไปนอนภายในห้องนอนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่รู้สึกผิดสังเกตเนื่องจากไม่ได้ยินเสียงหลานสาวเลย จึงเดินเข้าไปดูภายในห้องนอน

"ทีแรกก็เห็นหลานสาวนอนห่มผ้าคลุมหัวอยู่ โดยมีแม่นอนกอดลูกแนบอก จึงได้เรียกหลานเพื่อให้ลุกขึ้นไปฉี่เหมือนทุกคืน แต่ก็ไม่มีเสียงตอบ โดยเรียกอยู่หลายครั้ง แต่หลานไม่ตื่น จึงได้ไปดึงผ้าห่มออกจากตัวก็แทบช็อก เพราะที่ใบหน้าหลานถูกตีจนเละเลือดอาบ เมื่อถามลูกสาวก็ไม่ยอมพูดอะไร ได้แต่นั่งนิ่งอย่างเดียว จึงได้ออกไปเรียกเพื่อนบ้านให้มาดูและแจ้งตำรวจมาที่เกิดเหตุ"

...

ยายน้องเปีย ยังเล่าอีกว่า น้องเปียกำลังจะเข้าโรงเรียนในชั้นอนุบาล 3 ในวันนี้เป็นวันแรก หลังจากที่ได้ไปสมัครเรียนไว้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากน้องเปียและแม่เพิ่งมาอยู่กับตนที่ห้องเช่าเมื่อประมาณวันที่ 24-25 กันยายนที่ผ่านมา โดยอาศัยอยู่ในห้องเช่าด้วยกัน 3 คน ตนเป็นคนทำงานหาเลี้ยงเนื่องจากลูกสาวมีอาการป่วยทางจิต ไม่สามารถทำงานได้ ก่อนหน้านี้อาศัยอยู่กับตาที่ จ.นครพนม แต่เมื่อตาเสียชีวิตทั้งสองคนจึงมาอยู่กับตน พราะไม่มีใครดูแล โดยคาดว่าสาเหตุที่ทำร้ายลูกน่าจะมาจากอาการป่วยทางจิตกำเริบและขาดยาเนื่องจากไม่กินยาต่อเนื่องมาหลายวัน

สำหรับศพน้องเปียได้ตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดหัวถนน ซึ่งเป็นวัดที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับบ้านเกิดเหตุ และจะสวดอภิธรรมศพแค่คืนเดียว และในวันพรุ่งนี้ (5 พ.ย.) จะทำพิธีฌาปนกิจศพ เนื่องจากครอบครัวยากจนไม่มีญาติพี่น้อง มีเพียงเพื่อนบ้านและเพื่อนคนงานที่ร่วมกันเรี่ยไรเงินมาช่วยงานศพ

ส่วนแม่เด็ก พนักงานสอบสวน สภ.สะเดา ยังไม่แจ้งข้อหาใดๆ โดยได้ส่งตัวไปให้แพทย์โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ตรวจอาการอย่างละเอียด รอการยืนยันจากแพทย์ว่าป่วยทางจิตหรือไม่ หากป่วยจริงก็ต้องเข้าสู่กระบวนการรักษาให้หายก่อน จากนั้นจึงค่อยมาว่ากันทางคดี

ขณะที่เพื่อนบ้านซึ่งเป็นคุณป้าคนหนึ่งบอกว่า ทันทีที่รู้ข่าวว่าน้องเปียถูกแม่แท้ๆ ทำร้ายเสียชีวิตก็ตกใจ วางช้อนข้าวทันที และกินต่อไม่ได้ ขนลุก เพราะเห็นกันอยู่ประจำ เมื่อไม่นานมานี้ก็เคยชวนแม่ลูกคู่นี้มากินหมูกระทะในงานวันเกิดของหลานสาวตัวเองด้วย ซึ่งน้องเปียเป็นเด็กน่ารัก แต่ไม่ค่อยพูด ส่วนแม่เป็นคนนิ่งๆ ไม่ค่อยพูดจากับใคร ไม่คาดคิดว่าจะมาเกิดเหตุร้ายขึ้นกับน้องเปียถูกฆ่าโดยแม่ของตัวเอง.