ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "ฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 19 ตุลาคม 2562)" ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2562
ในช่วงวันที่ 17-19 ตุลาคม 2562 บริเวณภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย
สำหรับบริเวณอ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา คลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
ทั้งนี้ เนื่องจากลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่
เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือ สายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ประกาศ ณ วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2562 เวลา 05.00 น.
กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2562 เวลา 11.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ท่าเทียบเรือบ้านทับละมุ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง และ บ้านน้ำเค็ม อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา พบว่าเรือประมงพื้นบ้านขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ต่างนำเรือเข้าจอดฝั่งเป็นจำนวนมาก เนื่องจากสภาพอากาศในทะเลไม่อำนวยในการออกหาปลาเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย พร้อมกับเฝ้าระวังติดตามข่าวสารจากทางการอย่างใกล้ชิด
...
ขณะที่บรรยากาศบริเวณชายทะเลชายหาดเขาหลัก บ้านบางหลาโอน ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า พบว่าน้ำทะเลเป็นสีขุ่นแดงคลื่นมีกำลังค่อนข้างแรงทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถเล่นน้ำทะเลได้
ที่ จ.สุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ออกหนังสือแจ้งเตือนประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ไปจนถึงวันที่ 19 ตุลาคม 62 ซึ่งภายหลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งเตือน ว่าจะมีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้ 11 อำเภอของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์อุทกภัยและคลื่นลมแรง โดยเฉพาะในพื้นที่ อำเภอท่าชนะ ไชยา วิภาวดี พนม ชัยบุรี พระแสง เวียงสระ ท่าฉาง คีรีรัฐนิคม กาญจนดิษฐ์ และอำเภอเกาะสมุย
พร้อมกับให้เฝ้าระวังคลื่นลมแรงใน 9 อำเภอที่อยู่ติดฝั่งอ่าวไทย ประกอบด้วย อ.ท่าชนะ ไชยา ท่าฉาง พุนพิน เมืองสุราษฎร์ธานี กาญจนดิษฐ์ ดอนสัก เกาะพะงัน และ อ.เกาะสมุย โดยให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ราบลุ่มและที่ราบเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่านให้ระมัดระวังอุทกภัย น้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่งและพื้นที่ติดชายทะเลในช่วง 3-4 วันนี้ และให้กรมเจ้าท่าภูมิภาคทุกสาขา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมการเดินเรืออย่างใกล้ชิดให้เรือทุกประเภทระมัดระวังในการเดินเรือ ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นถ้ำ น้ำตก จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษ