“จุ้ยตุ่ยเต้าโบ้เก้ง” ศาลเจ้าใหญ่และมีเหล่าม้าทรงมากที่สุดของภูเก็ต ประกอบพิธีแห่พระรอบเมือง นำม้าทรงนับพันคนแสดงอิทธิฤทธิ์ รับเคราะห์แทนผู้ถือศีลกินผักในเทศกาลกินเจ คนร่วมชมขบวนนับหมื่น
ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 5 ต.ค.62 วันที่ 7 ของประเพณีถือศีลกินผักและเป็นวันที่ 6 ของการประกอบพิธีอิ้วเก้ง หรือแห่พระรอบเมืองภูเก็ต ซึ่งมีศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเต้าโบเก้ง ศาลเจ้าที่ใหญ่ที่สุดและมีเหล่าม้าทรงชายหญิงที่มากที่สุดใน จ.ภูเก็ต ประกอบพิธีดังกล่าว โดยปีนี้มีม้าทรงเข้าร่วมพิธีกว่า 1,500 คน ทำให้บรรยากาศตลอดเส้นทางที่ขบวนแห่พระผ่านมีประชาชนและนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติรอชมขบวนเป็นจำนวนมาก เพื่อรับพรจากองค์พระและชมการแสดงอิทธิฤทธิ์ของม้าทรง ซึ่งม้าทรงมีอายุตั้งแต่ 15-60 ปี ต่างใช้ของแหลม ของมีคมต่างๆ ทั้งในและนอกตำนานทิ่มแทงตามร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณกระพุ้งแก้ม ลิ้น เช่น หัวมณฑล เรือสำเภา มีดดาบ มีดทำครัวและยังมีการอาบน้ำมัน ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นการรับเคราะห์แทนผู้ถือศีลกินผัก
นอกจากนั้น ตลอดเส้นทางที่ขบวนผ่าน ได้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย ตั้งโต๊ะรับพระกันเป็นจำนวนมาก และเมื่อขบวนพระผ่าน ชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยวต่างนำประทัดแพที่เตรียมไว้นับล้านๆ นัดจุดใส่ขบวน เพื่อเป็นการต้อนรับในโอกาสเทพเจ้าเสด็จออกประพาสเพื่อโปรดสัตว์ หรือทำนองออกเยี่ยมราษฎรของกษัตริย์ โดยมีขบวนธงและป้ายชื่อแห่นำหน้า
...
จากนั้นเป็นเกี้ยวหามรูปพระ เรียกว่า ไท่เปี๋ย หรือ เสลี่ยงเล็ก โดยหามรูปพระบูชาต่างๆ ออกนั่งเกี้ยวไป ซึ่งจัดตามชั้นและยศของเทพขบวนของนิ่วสิ่ว หรือฉัตรจีน ตามด้วยพระเกี้ยวใหญ่ หรือเสลี่ยงใหญ่ ซึ่งมักใช้คน 8 คนหาม ซึ่งเป็นที่ประทับองค์กิ้วฮ๋องไต่เต่ ทำให้พื้นที่ตัวเมืองภูเก็ตในเส้นทางที่ใช้ประกอบพิธีแห่พระถูกปกคลุมไปด้วยเสียงและควันจากประทัด
ส่วนในวันที่ 6 ต.ค.2562 เป็นวันที่ 8 ของประเพณีถือศีลกินผัก จ.ภูเก็ต จะเป็นขบวนแห่พระรอบเมืองของศาลกะทู้ ซึ่งเป็นศาลเจ้าต้นกำเนิดประเพณีถือศีลกินผักและเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่สุดของ จ.ภูเก็ต และในช่วงค่ำวันเดียวกัน ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเต้าโบ้เก้งจะประกอบพิธีโก้ยหาน (พิธีสะเดาะห์เคราะห์).