“ศรีสุวรรณ” ยื่นอัยการส่งศาลฯสั่ง นักวิชาการ-แกนนำพรรคฝ่ายค้าน ห้ามพูดเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 1 ชี้กฎหมายบัญญัติชัดเจน การดำเนินการที่นำไปสู่การแบ่งแยกประเทศ มีความผิดถึงขั้นประหารชีวิต
เวลา 10.20 น. วันที่ 4 ต.ค. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดให้พิจารณากรณี ดร.ชลิตา บัณฑุวงศ์ รองหัวหน้าภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แสดงความคิดเห็นต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญในเวทีสัญจรภาคใต้ ที่ จ.ปัตตานี ของ 7 พรรคฝ่ายค้าน เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2562
โดยระบุว่า “ประเทศไทยอาจจะไม่จำเป็นต้องมีรัฐเดี่ยว หรือแบบรวมศูนย์ ซึ่งอาจจะรวมถึงมาตราที่ 1 ด้วยก็ได้” จนเกิดการการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในขณะนี้ เพื่อให้อัยการสูงสุดร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้ ดร.ชลิตา รวมถึง 7 พรรคฝ่ายค้านเลิกการกระทำดังกล่าว โดยมีนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้แทนรับเรื่อง
...
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ดร.ชลิตา ได้นำเสนอประเทศไทยไม่ควรเป็นรัฐเดี่ยว อาจจะแยกเป็นรัฐต่างๆ ได้ ซึ่งหมายถึงเป็นสหพันธรัฐ การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 1 ถือเป็นเรื่องใหญ่ รัฐธรรมนูญไทยในอดีตตั้งแต่ฉบับแรกถึงปัจจุบันบัญญัติไว้ชัดเจน ประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียวจะแบ่งแยกมิได้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 1 เป็นหัวใจสำคัญซึ่งจะยึดโยงหลายมาตรา กระทบสิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ถ้าหากปล่อยให้ 7 พรรคการเมือง ดร.ชลิตา หรือแม้แต่บุคคลอื่นไปรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญโดยมุ่งเน้นมาตรา 1 ก็เป็นเรื่องอันตราย
“ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 บัญญัติชัดเจน การดำเนินการที่นำไปสู่การแบ่งแยกประเทศนั้นจะกระทำมิได้ มีความผิดถึงขั้นประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต ลักษณะเดียวกันกับมาตรา 116” นายศรีสุวรรณ กล่าว
ผู้สื่อรายงานว่า กรณีเดียวกัน ก่อนหน้านี้ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้มอบหมายให้ พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้ชำนาญการสำนักงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนโดยมี ร.ต.อ.ศิริศักดิ์ หวังกุหลำ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองปัตตานี เป็นผู้รับแจ้งความเมื่อเวลา 23.00 น. ของวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมาล ให้ดำเนินคดีกับแกนำ 7 พรรคฝ่ายค้านและนักวิชาการ รวม 12 คนที่ร่วมเวทีสัมมนาในวันดังกล่าว ในความผิดฐาน
“ร่วมกระทำผิด ทำให้ปรากฏแก่ประชาชน ด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีการอื่นใด อันไม่ใช่เป็นการกระทำตามมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือไม่ใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน กระด้างกระเดื่องต่อประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบในราชอาณาจักรเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116
ล่าสุด พ.ต.อ.อธิป แสงวันลอย รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ได้เรียกพนักงานสอบสวน และชุดสืบสวนสอบสวน ประชุมหาแนวทางการทำงาน เกี่ยวกับการสืบสวนคดีอย่างตรงไปตรงมา เนื่องจากเป็นคดีที่สำคัญ จึงได้เน้นย้ำให้พนักงานสอบสวนทำงานอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะข้อมูลหลักฐานต่างๆ ที่ต้องนำมาประกอบคดี ต้องมีความชัดเจนที่สุด