ลูกจ้างอช.ใต้ร่มเย็น จ.สุราษฎร์ฯ ทวง "เบี้ยเลี้ยงค่าลาดตระเวนเชิงคุณภาพ "Smart Patrol System แฉเงินเต็ม 5.6 หมื่นต่อเดือนควรจะเข้าบัญชี แต่โดนเรียกกลับให้ "หัวหน้า" จ่ายเป็นเงินสด แต่หายไป 2 หมื่น

วันที่ 2 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีกลุ่มลูกจ้าง และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติได้ร่มเย็น อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี นำหลักฐานการสนทนาทางแอปพลิเคชันไลน์ เกี่ยวกับการเรียกกลับเงินจากบัญชีในโครงการเดินลาดตระเวนเชิงคุณภาพ หรือ Smart Patrol System ของข้าราชการระดับสูง ซึ่งเป็นการเข้าข่ายการทุจริต และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งอธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

นายพี(นามสมมติ) อายุ 30 ปี ลูกจ้างจ้างเหมา (TOR ) ทำหน้าที่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า หน่วยพิทักษ์อุทยานน้ำตกเหมืองทวด ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกจ้างอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น เปิดเผยข้อมูลว่า ขณะนี้มีลูกจ้าง ชั่วคราวของอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี ไม่น้อยกว่า 20 คน ได้รับความเดือดร้อน จากการได้รับเงินเบี้ยเลี้ยง ค่าเดินลาดตระเวนเชิงคุณภาพ หรือ Smart Patral System ไม่ครบตามจำนวนที่กรมฯ กำหนด คือ รายละ 2,800 บาท โดยเมื่อมีการจ่ายเงินผ่านบัญชีของลูกจ้าง จะมีเจ้าหน้าที่ระดับผู้ช่วย หัวหน้าอุทยาน เรียกคืนไปทั้งหมด แล้วจึงมอบให้หัวหน้าหน่วยนำกลับมาเฉลี่ยคืนให้เจ้าหน้าที่ ในจำนวนที่ไม่เท่ากัน รายละ 500 บาท 700 บาท และ 1,000 บาท

นายพี กล่าวด้วยว่า โครงการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ เป็นโครงการตามนโยบายของนายธันยา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่ต้องการเพิ่มศักยภาพการลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ จึงได้จัดสรรงบประมาณ เพื่อเป็นเบี้ยเลี้ยงให้กับผู้ปฏิบัติงานลาดตระเวน เมื่อปี งบประมาณ 2561 โดยมีข้อกำหนดว่า ชุดปฏิบัติการ จะต้องลงพื้นที่เดินลาดตระเวน วันละ 5 กิโลเมตร เดือนละไม่น้อยกว่า 14 วัน ติดต่อกัน จะได้รับเงินเบี้ยเลี้ยงคนละ 2,800 ต่อเดือน โดยให้ต้นสังกัดจ่ายผ่านบัญชีเงินเดือนของลูกจ้างเป็นรายๆ ไป

...

อย่างไรก็ตาม เมื่อเงินเบี้ยเลี้ยงเข้าบัญชี จะมีเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯแจ้งให้รวบรวมเงินดังกล่าว เป็นเงินสด ส่งผ่าน เจ้าหน้าที่การเงินไป ให้กับหัวหน้าอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น เพื่อแจกจ่ายให้เอง โดยมียอดรวมเดือนละ 56,000 บาท โดยอ้างว่า หัวหน้าอุทยานฯจะเป็นผู้แบ่งสรรกลับไปให้ลูกจ้างด้วยตนเอง แต่ตลอดระยะเวลา 8 เดือนในปีงบประมาณ 2562 ลูกจ้างที่ทำเบิกตามโครงการกลับได้เงินไม่ครบ ทราบเพียงแต่ว่าในแต่ละเดือน หัวหน้าอุทยานฯจะมอบเงินกลับมาผ่านทางหัวหน้าหน่วย จำนวน 13 หน่วย เป็นเงินรวมเพียง 36,000 บาท เมื่อนำมาเฉลี่ยคืนแล้ว จะได้รายละ 500-1,000 บาทเท่านั้น ทั้งที่ ความเป็นจริงพวกตนได้ทำเรื่องขอเบิกไปรวมเดือนละ 56,000 บาท และเมื่อมีการทวงถาม ก็บ่ายเบี่ยง และท้าให้ไปร้องเรียน พร้อมทั้งขู่จะไม่ต่อสัญญาจ้าง จนทำให้ลูกจ้าง ต่างได้รับความเดือดร้อน เป็นอย่างมาก

เจ้าหน้าที่และลูกจ้างอุทยานฯ ยังให้ข้อมูลอีกว่า โครงการเดินลาดตระเวนเชิงคุณภาพนั้น เป็นนโยบายของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่ต้องการให้เงินจำนวนนี้ถึงมือลูกจ้างอย่างแท้จริง จึงได้กำหนดให้นำเงินเบี้ยเลี้ยงเข้าบัญชีเงินเดือนของลูกจ้างโดยตรง เพื่อเป็นการป้องกันการทุจริตของเจ้าหน้าที่อีกทางหนึ่ง แต่ก็มาเกิดเรื่องเบียดบังเอาเงินของลูกจ้างอีกจนได้ สร้างความเดือดร้อนให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างยากลำบาก เพราะเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ ได้รับเงินค่าตอบแทน เดือนละ 9,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่น้อย

"หวังจะได้เงินค่าล่วงเวลามาจุนเจือครอบครัว กลับมาโดนผู้บริหารมาเอารัดเอาเปรียบ จึงอยากจะขอวิงวอนสื่อ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เห็นใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอย่างเสียสละ ต้องเหน็ดเหนื่อย ตากแดด ตากฝน อดทน เพื่ออนุรักษ์และปกป้องทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ ได้เข้ามาตรวจสอบอย่างเร่งด่วน และหลังจากนี้ จะได้นำหลักฐาน ดังกล่าว ร้องไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อสอบสวนเรื่องนี้ต่อไป"

ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็นได้รับการจัดสรรงบประมาณจากกรมอุทยานแห่งชาติฯ เป็นค่านอกเวลาในการลาดตระเวนเพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ ที่มีรายได้น้อย ประจำปี 2562 จำนวน 584,200 บาท มีเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวน จำนวน 4 ชุด ชุดละ 5 คน เบิกจ่ายค่านอกเวลา เดือนละ 56,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวจะเข้าบัญชีของเจ้าหน้าที่ ที่ตั้งเบิกทั้งหมดจำนวน 20 คน คนละ 2,800 บาท ต่อเดือน