สาวตรังใช้พื้นที่ว่างหลังบ้าน เพาะเลี้ยงกบสีทอง หรือ กบนา จำหน่ายทั้งปลีกและส่ง พร้อมขยายพันธุ์เอง จนสร้างรายได้นับหมื่นกว่าบาทต่อเดือน ชี้กบกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างจังหวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวบ้านที่ตรังหันมาใช้ที่ว่างในบ้าน เพาะเลี้ยงกบสีทอง ส่งขายหารายได้ จึงตามไปที่บ้านเลขที่ 83 หมู่ 7 ต.นาเมืองเพชร อ.สิเกา จ.ตรัง นางสาวเกศกนก จันทรมณี อายุ 45 ปี เป็นเจ้าของบ้าน ใช้พื้นว่างหลังบ้านเป็นพื้นที่เลี้ยงกบสีทอง หรือชาวบ้านเรียกกบนา เกษตรกรรายนี้ ได้ใช้พื้นว่างหลังบ้านสร้างบ่อปูนขนาดยาว 4 เมตร กว้าง 3 เมตร เป็นพื้นที่เลี้ยงกบสีทอง หรือชาวบ้านเรียกกบนา ประมาณ 3,000 กว่าตัว
เกษตรกรผู้เลี้ยงกบ กล่าวว่า ขณะนี้ ได้เลี้ยงกบสีทองรวม 4 บ่อ โดยแต่ละบ่อจะมีกบสีทองประมาณ 1 พันกว่าตัว รวมถึงบ่ออนุบาลกบ โดยส่วนตัวได้เริ่มวิธีศึกษาวิธีการเลี้ยงจากโซเซียล และช่องยูทูบ จากนั้นจึงลองซื้อพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์มาลองเลี้ยง สรุปผลการทดลองเลี้ยงรอบแรก และมีพ่อค้าคนกลางจากต่างจังหวัดมาติดต่อรับซื้อยกบ่อประมาณ 300 กิโลกรัม ตกกิโลกรัมละ 70 บาท ต่อ ราคาปลีก ในส่วนของราคาส่ง จะตกกิโลกรัมละ 80 บาท ตกประมาณ 3 ตัวต่อ 1 กิโลกรัม ตนจึงเก็บพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์อย่างละ 10 ตัว เพื่อทำการขยายพันธุ์เอง ใช้ระยะเวลาในการเลี้ยงกบพันธุ์สีทอง ประมาณ 3-4 เดือน
...
นางสาวเกศกนก กล่าวอีกว่า ในส่วนของการเลี้ยงดู จะให้อาหารจะให้อาหารสำเร็จรูป บ่อละ 3 กิโลกรัม ให้วันละ 2 เวลา เช้า กับ เย็น สร้างรายได้ประมาณ 10,000 ต่อเดือน เนื่องจากกบพันธุ์สีทองจะวางไข่และออกลูกได้ตลอดทั้งปี แต่ต้องใช้ระยะเวลาในเลี้ยงตั้งแต่อายุอนุบาลจนกว่าจำหน่ายได้ปกติใช้ระยะเวลาในเลี้ยง ประมาณ 4 เดือน แต่ในช่วงหน้าฝน จะเป็นฤดูผสมพันธุ์โดยทางธรรมชาติของกบ จึงทำให้ต้องขยายบ่อเพิ่มจาก 3 บ่อ เป็น 5 บ่อ เพื่อให้พอเพียงต่อความต้องการของลูกค้าทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด
เกษตรกรผู้เลี้ยงกบ กล่าวด้วยว่า กบพันธุ์สีทองจะมีจุดเด่นตรงที่เนื้อเยอะ เนื้อแน่น รสชาติหวานมันและมีราคาขายในท้องท้องตลาดไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 80 บาท สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายเมนู โดยเฉพาะตามร้านอาหารต่างๆ จะนิยมซื้อไปทำเมนูกบ เดือนละหลายกิโลทีเดียว ทั้งนี้อนาคตข้างหน้าตั้งเป้าไว้ว่าจะเพาะพันธุ์ลูกกบจำหน่ายเผื่อใครสนใจจะได้นำไปเลี้ยงสร้างรายได้เสริม.