พื้นที่ริมทะเลสาบสงขลาหมู่ 8 ต.ลำปํา อ.เมืองพัทลุง ส่วนใหญ่มีบ้านเรือนตั้งริมทะเล!!

ชาวบ้านจึงพากันทำนาข้าวในทะเลสาบ ใช้พื้นที่ริมชายฝั่งทะเลสาบที่ทอดยาวกว่า 5 กม.ทำการเพาะปลูกข้าว เป็นวิถีที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษเพื่อให้มีผลผลิตเลี้ยงครอบครัว ถือว่ามีแห่งเดียวในประเทศไทยก็ว่าได้...

นางหนูคลาย หยูทอง อายุ 66 ปี หนึ่งในผู้ที่ได้รับการถ่ายทอด ความรู้เรื่องวิธีการทำนาข้าวในทะเลสาบ เล่าว่า ใช้พื้นที่ประมาณ 4 ไร่ ทำนาข้าวริมทะเลสาบมานานกว่า 40 ปีแล้ว...

ยังมีเพื่อนบ้านอีกหลายครัวเรือนทำเช่นเดียวกัน รวมพื้นที่ปลูกข้าวในหมู่บ้านกว่า 800 ไร่ ใช้เวลาราว 3 เดือนครึ่งในการปลูกข้าว จะเริ่มกันประมาณกลางเดือน มิ.ย.เก็บเกี่ยวช่วงปลายเดือน ก.ย.ทุกปี

เหตุผลที่เลือกทำนาในช่วงเวลานี้ เพราะน้ำในทะเลสาบจะเป็นน้ำกร่อย ทำให้สามารถปลูกข้าวได้ หากเกินช่วงเวลาดังกล่าวนาข้าวจะไม่ได้ผลผลิตเพราะน้ำทะเลจะหนุนสูงท่วมต้นข้าวเสียหาย

การเพาะปลูกข้าวที่นี่ ต้องหาพันธุ์ข้าวที่ลำต้นแข็งแรง มีรากลึก และต้นข้าวเมื่อเจริญเติบโตแล้วต้องมีความสูง และสามารถต้านทานกับสภาพแรงลมและคลื่นขนาดเล็กที่ซัดเข้าหาฝั่งได้

ดังนั้นชาวบ้านจึงนิยมใช้พันธุ์ข้าว กข 55 และพันธุ์ข้าวหอมราชินี

สำหรับการดูแลรักษานั้นไม่ยุ่งยากและไม่ต้องใช้เงินในการซื้อปุ๋ย เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้มีตะกอนแร่ธาตุจากธรรมชาติไหลมาทับถมอยู่แล้ว และยังมีน้ำหล่อเลี้ยงตลอดเวลา ตามการขึ้นลงของน้ำในทะเลสาบ

เกษตรกรจึงได้รับผลผลิตอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย!!!

เมื่อต้นข้าวเจริญเติบโตแล้ว ยังกลายเป็นแหล่งอาศัยของกุ้ง หอย ปู ปลา ขนาดเล็กอีกด้วย ซึ่งเป็นผลพลอยได้ที่ชาวบ้านได้รับอีกทอดหนึ่ง

ที่สำคัญการทำนาของชาวบ้านที่นี่ไม่ต้องใช้ทุน ใช้เพียงแรงเท่านั้น

...

นับเป็นอีกมุมหนึ่งของการท่องเที่ยววิถีชุมชนของชาวบ้านริมทะเลสาบสงขลา ที่เหมาะให้นักท่องเที่ยวได้มาเรียนรู้และเช็กอินมุมสวยๆ
ไว้เป็นที่ระลึกกัน!!!

อิสณา อุดมศิลป์