“นกน้อย อุไรพร” ศิษย์เอกอาลัย “นพดล ดวงพร” บรมครูผู้ตัดสายสะดือ ตั้งชื่อ ส่งเพลงให้ร้อง แจ้งเกิดจาก "วงเพชรพิณทอง" เผยตัวจริง ไม่ใช่คนตลก แต่จริงจังใส่ใจทุกรายละเอียด ขอต่อยอดสืบสานงานศิลป์แผ่นดินอีสาน   

วันที่ 7 ก.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ บ้านเลขที่ 555 บ้านหนองใส ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านนางอุไร ฉิมหลวง หรือนกน้อย อุไรพร ศิลปินหมอลำชื่อดังวงเสียงอิสานของ จ.อุดรธานี ศิษย์เอกนพดล ดวงพร ผู้ก่อตั้งวงเพชรพิณทอง ที่นกน้อยเคารพดุจพ่อคนที่ 2 ส่วน นพดล ดวงพร ก็รักนกน้อย อุไรพร เสมือนลูกสาวคนหนึ่ง และเป็นที่ผู้ปลุกปั้น นกน้อย อุไรพร จนมีชื่อเสียงโด่งดังมาถึงทุกวันนี้

นกน้อย อุไรพร หรือ แม่นก เปิดเผยถึงความรู้สึกการสูญเสีย นพดล ดวงพร ว่า ตนมีความรู้สึกว่า พ่อนพดล เป็นเหมือนพ่อคนหนึ่ง ตอนอายุ 15 ปี ได้ไปขอสมัครเป็นหางเครื่องกับวงเพชรพิณทองของพ่อนพดล ตอนนั้นตนตัวเล็ก ผิวดำ เป็นเด็กกว่าคนอื่น พ่อนพดลจะไม่รับเข้าวง แต่ก็ให้เข้ามาเลี้ยงน้องที่ยังเล็กอยู่ แต่ตนก็ซ้อมเต้นไปด้วย แต่ไม่ได้ออกเต้น เพราะว่าตัวเล็กกว่ารุ่นพี่ แต่พ่อนพดลก็หาเพลงให้ร้อง เพราะตอนนั้นวงเพชรพิณทอง ทุกคนในวงต้องร้องเพลงได้ อยู่ 2 ปีจึงจะได้อัดเสียง ต้องร้องเพลงหน้าเวทีให้ได้ เพราะยุคนั้นเวลาอัดแผ่นเสียงทั้งวง และคนร้องต้องอัดพร้อมกัน ต้องพลาดให้น้อยที่สุด

"ตอนอยู่กับพ่อ ความจริงแกเน้นทุกอย่าง ไม่ใช่เฉพาะเรื่องตลก ทุกอย่างต้องเนี้ยบ แต่ไฮไลต์ก็คือการแสดงตลก แต่ทุกอย่างทั้งงานโชว์ เสื้อผ้า ต้องเนี้ยบ แกเอาใจใส่ทุกขั้นตอนในการแสดง คนมองว่าท่านเป็นคนตลก แต่ความเป็นตัวตนจริงของท่านไม่ได้ตลกเลย น่ากลัว ท่านจะเนี้ยบทุกอย่างกับการเตรียมงาน ก่อนจะออกหน้าเวที อารมณ์จิตวิญญาณของท่านจะเป็นอีกอย่าง ให้คนดูหัวเราะได้ แต่ตอนอยู่ด้วยเราจะกลัวท่าน กลัวแบบที่ว่าไม่กล้าเข้าหน้าไปหา ซึ่งจะเป็นแบบนี้แทบทุกคนในวง พ่อไม่เคยตี แต่แค่แกใช้สายตา แค่ชายตามองทุกคนก็กลัวแล้ว แต่พอถึงเวลาขึ้นเวทีพ่อจะกลายเป็นอีกคนหนึ่งไปเลย อารมณ์ศิลปิน ศิลปะการแสดง จะเป็นคนละอย่างเลย โดยก่อนแสดงท่านก็จะซ้อมมุกตลก รวมกับความเป็นอัจฉริยะของพ่อ มามุกไหนพ่อก็รับได้หมด”

...

แม่นกน้อย เล่าต่อไปว่า ความประทับใจในตัวพ่อคือ ท่านเป็นนักสู้ ถ้าจะพูดแบบไม่เข้าใจท่าน หรือคนดูที่สัมผัสท่านแบบผ่านๆ จะมองว่ายโส โอหัง แต่ถ้าเรามองอีกมุมหนึ่ง แม่ได้มาต่อยอดเป็นนกน้อย อุไรพร เป็นเสียงอิสาน จะมองว่าท่านเป็นคนทระนงมาก ไม่เชื่อใคร มั่นใจในความคิดตัวเองในแบบที่ตนมั่นใจ และก็ทำได้ เพราะเก่งและอัจฉริยะ ตอนไปอยู่กับพ่อนพดลครั้งแรก เพราะนักจัดรายการวิทยุที่ จ.อุบลราชธานี ประกาศรับสมัครหางเครื่อง แม่ได้พาตนไปสมัคร ขนเสื้อผ้าไป พ่อนพดลบอกว่าแม่ตัวเล็ก ไม่รับ แต่พ่อทองใส ทับถนน มือพิณในวงได้บอกให้รับไว้ก่อน เพราะเสียงดีใช้ได้ แต่ให้เลี้ยงน้องๆ ลูกพ่อนพดลไปก่อน จึงได้อยู่ในวงและซ้อมหางเครื่องอยู่แถวหลัง เพื่อเอาไว้สำรองเผื่อไว้เสริมหางเครื่องขาด หรือทำเป็นนักร้องขั้นเวลา

ส่วนเพลง “นกจ๋า” ซึ่งเป็นเพลงที่ส่งให้ นกน้อย อุไรพร โด่งดังนั้น ครั้งแรกมีนักร้องรุ่นพี่ชื่อ “ชุติมา ดวงพร” เป็นคนร้อง แต่แม่นกน้อยจะได้ร้องเพลง “นกจ๋า” คั่นเวลาแทนพี่ชุติมา ทำให้ได้ร้องคู่กันมาตลอด จนแฟนเพลงเรียกร้องให้ออกไปร้องเพลงด้วย พ่อนพดลจึงได้ตั้งชื่อให้ว่า “นกน้อย อุไรพร” ตอนอายุ 16 ปี ในปี 2516 จนมีชื่อเสียงโด่งดังถึงทุกวันนี้ จากนั้นพ่อนพดลก็แต่งเพลงให้ร้องเป็นอัลบั้มแรกชื่อ “คอยฮักจากเสียงพิณ” แม้ไม่ดังมาก แต่มีแฟนเพลงรู้จัก และได้อัดแผ่นเล็กเพลงประมาณ 5 เพลง เป็นแผ่นลองเพลย์ แต่ยังไม่ได้อัดแผ่นเต็ม ต่อมได้กลับไปบ้านทำนาที่ศรีสะเกษ จนอายุ 19 ปีได้มาตั้งวงเสียงอิสานอยู่ที่ จ.อุดรธานี

แม่นกน้อย เล่าต่อไปอีกว่า ข่าวพ่อ นพดล ดวงพร เสียชีวิตมี 2 ช่วง ครั้งแรกทางเฟซบุ๊ก แต่ลูกสาวพ่อนพดลออกมาแก้ข่าวว่ายังไม่เสียชีวิต นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล ก็ไปทำบุญและอธิษฐานให้ปาฏิหาริย์เกิด ให้พ่ออยู่กับลูกหลานเป็นขวัญกำลังใจให้ลูกๆ ให้หายเจ็บป่วย ต่อมาลูกสาวพ่อนพดลยืนยันว่าเสียชีวิตจริงๆ รู้สึกเสียใจ ใจหาย เพราะเป็นบรมครูของวงการ ตนควรจะเสียใจมากกว่าลูกศิษย์คนอื่นในความเป็นลูกศิษย์ของเพชรพิณทอง เพราะความผูกพันและความเป็นนกน้อย อุไรพร พ่อเป็นคนตั้งชื่อให้ ได้มีอยู่มีกินจนทุกวันนี้ สร้างความเป็นปึกแผ่นและสร้างตำนาน สานต่อยอดวิชาความรู้ที่พ่อให้มา เป็นความสูญเสียที่ใหญ่หลวงมาก จะทำอย่างไรการสืบทอดวัฒนธรรมอีสานที่ได้ตกทอดมาจากพ่อนพดล จะได้อยู่กับลูกหลานสืบไป เพราะพ่อเคยบอกว่า “เฮ็ดในสิ่งที่เชื่อ และเชื่อในสิ่งที่เฮ็ด” และตนได้เอามาต่อยอดในวลีว่า “ไม่สร้างผลงาน ปาฏิหาริย์บ่เกิด”

"การจากไปของพ่อนพดล ดวงพร บรมครู เปรียบเสมือนพ่อของนกน้อย อุไรพร จนได้แจ้งเกิดที่วงดนตรีเพชรพิณทอง อนุรักษ์เสียงพิณ เสียงแคน ส่วนแม่นกน้อยมาตั้งวงหมอลำ เป็นการต่อยอดวัฒนธรรมอีสาน อยากบอกว่าเสียใจ อาลัยอย่างสุดซึ้ง ให้พ่อหลับสบาย ไม่ต้องห่วงข้างหลัง” นกน้อย อุไรพร กล่าวไว้อาลัย ถึง "บรมครู" ผู้จากไป.