ฝูงโลมา โผล่อวดโฉม ทักทายชาวประมง กลางทะเลม่วงงาม ที่ อ.สิงหนคร จ.สงขลา ชาวบ้านออกหาปลาโชคดีถ่ายไว้ได้ เป็นเครื่องยืนยันความอุดมสมบูรณ์ของทะเลไทย
วันที่ 7 ก.ค. จากที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สงสัย หัยถาม ได้เผยคลิปวิดีโอสุดน่ารักของเจ้าโลมาน้อย พร้อมกับระบุข้อความว่า "ฝูงโลมาเกือบร้อยตัวคับ ทะเลม่วงงามบ้านเรา" เป็นภาพสุดประทับใจ เเละมีประชาชนเข้าไปคอมเมนต์กันอย่างมากมาย ทั้งความน่ารักของเจ้าโลมาเเละแสดงความดีใจ เนื่องจากเป็นภาพที่หาชมได้ยาก ซึ่งทีมข่าวไทยรัฐ จึงได้ติดต่อไปยังเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว นายอานันท์ สิงหาด หมู่ที่ 3 ตำบลม่วงงาม อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา
นายอานันท์ เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 62 ที่ผ่านมาตนเองและเพื่อนๆ รวม 4 คน ก็ออกหาปลา วางอวนตามปกติก็ออกไปกลางทะเลอ่าวไทยเป็นประจำทุกวัน แต่วันนี้กลับช้ากว่าปกติ เพราะเห็นว่าเรือหาปลากลับกันแล้ว ตนเองก็จะวางอวนอีกรอบ จู่ๆ ก็เห็นฝูงโลมากระโดดน้ำนับร้อยกว่าตัว ตนเองก็ดีใจมากๆ จึงหยิบโทรศัพท์ถ่ายคลิปเอาไว้ ซึ่งมีความน่ารักอย่างมาก สร้างความแตกตื่น ตนเองก็โยนปลาให้ปลาโลมากิน แต่ปลาจะไม่กินปลาที่แช่น้ำแข็งและตนเองก็เข้าไปใกล้ๆ และถ่ายภาพ ปลาก็ออกมาเล่นกับเราด้วย สร้างความประทับใจอย่างมากๆ ตนเองก็อยากที่จะเชิญชวนมาเที่ยวชายหาดม่วงงาม และนั่งเรือดูโลมา ให้พี่น้องเรือประมงระมัดระวังปลาโลมาด้วย และเรื่องอุปกรณ์การจับปลาด้วย เพราะปลาจะไปโดนเครื่องมือประมงได้
...
จากสถิติการเสียชีวิตของสัตว์ทะเล ระหว่างปี พ.ศ.2558-2560 พบ เต่าทะเล โลมา วาฬ พะยูน 1,257 ตัว เฉลี่ยปีละ 419 ตัว แบ่งเป็นเต่าทะเล 57% โลมาและวาฬ 38% และพะยูน 5% เเน่นอนว่าสาเหตุที่โลมาเกยตื้นหรือเสียชีวิต นั่นเกิดมาจากสภาพเเวดล้อมของธรรมชาติ เครื่องมือประมงเเละขยะในทะเล จึงทำให้การพบเห็นโลมาสีชมพู อาจจะเห็นได้น้อยมาก เนื่องจากโลมาสีชมพู จะโผล่ขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำเท่านั้น เพราะโลมาสีชมพู มีผิวหนังที่หนาเป็นฉนวนกันความร้อน โดยในชั้นไขมันจะมีเส้นเลือดหล่อเลี้ยงน้อย ป้องกันการแลกเปลี่ยนอุณหภูมิกับน้ำ ระบบเส้นเลือดดำจะถูกล้อมด้วยเส้นเลือดแดง ซึ่งมีอุณหภูมิสูงกว่า
นอกจากนั้นการปรับตัวโดยลดอัตราการหายใจลง เป็นการลดการสูญเสียความร้อนที่ออกมากับอากาศ และเป็นผลทำให้โลมาสีชมพู สามารถดำน้ำได้นาน ทำให้ผู้คนเห็นโลมาขึ้นมาบนผิวน้ำได้ยากนั่นเอง ซึ่งโลมาสีชมพูจะขึ้นมาหายใจในช่วงที่น้ำนิ่ง เเละน้ำมีลักษณะใสขุ่น ชอบแสดงพฤติกรรมเหนือผิวน้ำหลายๆ อย่าง เช่น กระโดดขึ้นจนพ้นน้ำ และสะบัดหาง หรือตะแคงตัวว่ายน้ำแล้วโบกครีบไปมา