สาวใหญ่เรียนหัดขับรถ ตกใจเหยียบคันเร่งค้าง ครูฝึกพยายามเข้าไปดึงกุญแจแต่ไม่ทัน พุ่งทะลุกำแพง ลงสระจมเสียชีวิต
วานนี้ (19 มิ.ย.) ร.ต.อ. มนตรี สงคง รอง สว.(สอบสวน) สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุมีรถยนต์เก๋งหัดขับ พุ่งชนทะลุกำแพง และจมไปอยู่ภายในก้นสระน้ำ ติดกับโรงเรียนสอนขับรถยนต์ ตั้งอยู่ที่ กม.40 หมู่ 3 ต.หนองช้างแล่น หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ ก่อนรุดเดินทางไปตรวจสอบพร้อม หน่วยกู้ชีพ รพ.ห้วยยอด หน่วยกู้ภัยห้วยยอด และกำลังชุดประดาน้ำ มูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ จ.นครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดตรัง
ที่เกิดเหตุพบกำแพงปูนขนาดใหญ่ของโรงเรียน มีสภาพทะลุเป็นรูโบ๋ ถัดจากกำแพงประมาณ 7 เมตร เป็นสระน้ำขนาดใหญ่ลึกประมาณ 5 เมตร บนพื้นพบชิ้นส่วนรถแตกเกลื่อน ส่วนรถจมอยู่ภายในก้นสระ และมีคนติดอยู่ภายใน เจ้าหน้าที่ฯ ได้ลงดำน้ำเพื่อช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 15 นาที จึงสามารถนำร่างขึ้นมาจากสระน้ำได้ สภาพแน่นิ่งอยู่เบาะด้านหลังคนขับ ภายในห้องโดยสาร คาดคงตะเกียกตะกายหนีเอาตัวรอด ก่อนรีบปั๊มหัวใจ และนำส่ง รพ.ห้วยยอด แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อภายหลังคือ นางถนอมศรี วรฤทธิ์ อาชีพค้าขาย อายุ 47 ปี ชาว จ.กระบี่
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ลากรถที่ประสบเหตุขึ้นมา พบเป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นซันนี่ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กก 7006 ตรัง ซึ่งเป็นรถที่ใช้สำหรับฝึกหัดขับของโรงเรียนดังกล่าว สภาพกระจกด้านหน้าแตกละเอียด หัวรถพังยับย่นลงมา ตรวจสอบคันเกียร์ พบว่าเป็นเกียร์กระปุก และยังอยู่ในเกียร์ 1 ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำรถไปเก็บไว้ที่ สภ.ห้วยยอด เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
สอบสวนนายกฤษดาการ วงษ์มาก อายุ 36 ปี ชาว จ.ตรัง ซึ่งเป็นครูสอนขับรถและอยู่ในเหตุการณ์ ทราบว่า ผู้ตายมาฝึกหัดขับรถ โดยตนเองเป็นผู้สอน ซึ่งวันนี้ตนเห็นว่าผู้ตายสามารถที่จะขับได้แล้ว จึงได้ให้ทดลองขับเพียงคนเดียว โดยมีตนเองประกบอยู่ด้านข้างรถอย่างใกล้ชิด ระหว่างนั้นหัวรถได้มุ่งตรงไปยังกำแพงปูน ระหว่างนั้น ผู้ตายเกิดอาการตกใจ จึงได้เหยียบคันเร่งค้าง ระหว่างที่กำลังเหยียบครัชอยู่ด้วย ตนจึงรีบเข้าไปคว้ากุญแจเพื่อที่จะดับเครื่อง แต่ผู้ตายน่าจะปล่อยครัชทันที ในระหว่างที่เหยียบคันเร่งอยู่ จึงทำให้รถพุ่งไปชนกำแพงอย่างจัง จนทะลุ ก่อนพุ่งลงสระ และเสียชีวิตดังกล่าว
...
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวครูฝึกขับที่อยู่ในที่เกิดเหตุ มาสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด และดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนทางขนส่ง จ.ตรัง จะมีการติดตามความชัดเจน และหามาตรการป้องกันหลังจากนี้.