เจ้าหน้าที่เตรียมแจ้งข้อหา "ค้ามนุษย์" กรณีพบชาวโรฮีนจา 65 คน อพยพมาในเรือ เกยตื้นที่เกาะราวี จ.สตูล น่าจะมีเบื้องหลังนำเข้าแรงงาน จ่อขอหมายจับผู้เกี่ยวข้อง
จากกรณีที่ทหารเรือและตำรวจภูธร สภ.เกาะหลีเป๊ะ อ.เมืองสตูล ควบคุมชาวโรฮีนจา จำนวน 65 คน ชาวพม่า 5 คน และคนไทย 1 คน หลังจากเรือเกยตื้นที่เกาะราวี หม 7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมืองสตูล โดยเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา นายสังคม พาพันธ์ คนไทย และชาวพม่า 5 คน ในข้อหานำหรือพาบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ส่วนชาวโรฮีนจา 65 คน เจ้าหน้าที่ได้แยกคัดกรองว่ามีเหยื่อค้ามนุษย์หรือไม่
ทั้งนี้ ได้แยกไปควบคุมตัวที่ สภ.ฉลุง อ.เมืองสตูล 25 คน, ที่ สภ.เมืองสตูล 20 คน, ที่ ตม. 25 คน และเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ได้นำชาวโรฮีนจาจาก สภ.เมืองสตูลและจาก สภ.ฉลุง 45 คน ไปควบคุมตัวที่กองร้อย ตชด.436 ส่วนที่ ตม.สตูล ยังคงควบคุมตัว 25 คน มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยเข้มงวด ห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป ขณะที่ นายสังคม พาพันธ์ และชาวพม่า 5 คน ถูกควบคุมตัวดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสตูล
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 มิ.ย.นายอรุณ อุมาจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.สตูล ได้เดินทางไปพบ พล.ต.ต.ศุภวัฒน์ ทับเคลียว ผบก.ภ.จว.สตูล ที่ห้องตำรวจภูธร จ.สตูล เพื่อสอบถามเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของมุสลิมชาวโรฮีนจา
นายอรุณ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองได้ไปสอบถามความเป็นอยู่ของพี่น้องมุสลิมชาวโรฮีนจา ซึ่งทางผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สตูล ได้ดูแลอย่างเต็มที่ทั้งอาหารและเรื่องสุขภาพ ตนเองก็หมดห่วงในเรื่องนี้
ส่วนการสอบสวนขยายผล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทาง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ ตชด.436 จ.สตูล ร่วมกับ สภ.เกาะหลีเป๊ะ ออกค้นหาชาวโรฮีนจาที่อาจจะตกค้างหลงเหลือตามเกาะต่างๆ ที่อยู่รอบเกาะราวี พร้อมส่งตำรวจพิสูจน์หลักฐานไปเก็บข้อมูล เก็บลายนิ้วมือ ดีเอ็นเอ ที่เรือของชาวโรฮีนจาเกยตื้นที่เกาะราวี เพื่อหาหลักฐานว่าเรือลำดังกล่าวเป็นของใคร
...
ขณะเดียวกัน การสอบสวนมีความคืบหน้าไปมาก เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาล ออกหมายจับข้อหาค้ามนุษย์กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนชาวโรฮีนจายังคงไม่มีการดำเนินคดี เพราะถือว่าเป็นเหยื่อและจะกันไว้เป็นพยาน