รวบตัวแล้ว 4 ผู้ต้องหาคดีปล้น ไอ้หมวกเหล็ก ลูกน้องนายทุนขี่จยย.เก็บดอกเบี้ยเงินกู้ เหตุจากแค้นที่ดุด่าข่มขู่แม่และญาติเลยตามหวดด้วยกระบองตกรถ ชิงเงิน 2.2 หมื่นไปแบ่งกัน ไม่ใช่ 5 หมื่นอย่างที่ผู้เสียหายอ้าง 

วันที่ 7 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานกรณี 4 คนร้าย มี จยย.2 คัน เป็นยานพาหนะ บุกปล้นทรัพย์เงินสดมากกว่า 50,000 โดย 2 คนร้ายใช้ไม้ทุบตีนายสุเมธ บุญมา อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ที่ 9 ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นคนเก็บดอกเบี้ยของนายทุนเงินกู้รายใหญ่คนหนึ่งใน จ.ตรัง ที่เรียกกันว่า ไอ้หมวกเหล็ก จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเหตุเกิดบนถนนสายบ้านทุ่งยาว–บ้านโคกทราย ท้องที่หมู่ 7 ต.โคกชะงาย อ.เมืองพัทลุง ในเวลาประมาณ 18.45 น.วันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ความคืบหน้า เมื่อ 10.00 น.วันที่ 7 มิ.ย. ที่สภ.โคกชะงาย อ.เมืองพัทลุง พล.ต.ต.ดำรัส วิริยะกุล รอง ผบช.ภ.9 และ พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย และ พ.ต.อ. ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม 4 ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพัทลุง ที่ จ.216 – 219/2562 ลงวันที่ 6 มิถุนายน 2562 ประกอบด้วย นายนครินทร์ หรือไผ่ เมืองหนู อายุ 28 ปี นายพิทักษ์พล หรือเอก ยศไพโรจน์ อายุ 25 ปี นายธนพล หรือบีส ทองรอด อายุ 22 ปี บ้านเดิมอยู่ จ.ตรัง และนายอนิรุต หรือจอย ทองรอด อายุ 25 ปี บ้านเดิมอยู่ จ.สงขลา ซึ่งทั้ง 4 คน ถูกจับขณะกบดานในพื้นที่ตำบลโคกชะงาย อ.เมืองพัทลุงพร้อมของกลาง ไม้ไผ่ที่ใช้เป็นอาวุธ 2 ท่อน เงินสดจำนวน 3,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง รถ จยย.ที่ใช้ก่อเหตุ 1 คัน เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ 

...

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ให้การรับสารภาพว่า ได้เอาเสื้อปิดบังใบหน้า และขับขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน ใช้ไม้เป็นอาวุธตีศีรษะและลำตัวของนายสุเมธ บุญมา ก่อนที่จะชิงกระเป๋าสะพายที่มีเงินอยู่ในกระเป๋าประมาณ 22,400 บาท ไม่ใช่ 5 หมื่นบาทตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้าง พร้อมโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เนื่องจากไม่พอใจที่นายสุเมธ ซึ่งเป็น 1 ในกลุ่มหมวกเหล็ก ตามเก็บดอกเบี้ยเงินกู้รายวันและพูดจาไม่สุภาพกับมารดา และญาติพี่น้องในหมู่บ้าน จึงได้วางแผนดักปล้นเงินที่เก็บมาได้ นำไปแบ่งกันได้คนละ 5,600 บาทเท่านั้น หลังจากที่ก่อเหตุแล้วก็แยกย้ายกันหลบหนี

ด้านพล.ต.ต.ดำรัส วิริยะกุล รอง ผบช.ภ.9 กล่าวว่า ในส่วนของผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมทั้ง 4 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ และข้อหาทำร้ายร่างกาย

“ในส่วนของผู้เสียหาย ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบขยายผล เพื่อแจ้งข้อหาปล่อยเงินกู้เกินอัตราที่กฎหมายกำหนดกับผู้เสียหาย ก่อนจะสอบขยายผลไปสู่กลุ่มนายทุนที่ปล่อยเงินกู้ด้วย และหากมีหลักฐานชี้ชัดก็จะแจ้งดำเนินคดีกับกลุ่มนายทุนด้วย แต่ที่ผ่านมา ยอมรับว่า ส่วนใหญ่เป็นการสมยอมทั้งสองฝ่าย ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความลำบาก”

อย่างไรก็ดี รอง ผบช.ภ 9 ยังได้ฝากไปถึงประชาชนหากเกิดกรณีมีการข่มขู่จากกลุ่มคนเก็บดอกเบี้ย อย่าแก้ปัญหาโดยการกระทำดังเช่นผู้ต้องหาทั้ง 4 คน เพราะมีความผิดและจะถูกจับ