ศาลสั่งจำคุก 8 ปีจำเลยคดีข่มขืนแหม่มชาวนอร์เวย์ ศาลพบประวัติทำผิดมาแล้วหลายคดีจนเป็นปกตินิสัย ทำให้นักท่องเที่ยวขาดความเชื่อมั่นความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวสมควรลงโทษสถานหนักจำคุก 12 ปี และเพิ่มโทษหนึ่งในสามเป็นจำคุก 16 ปี จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือ 8 ปี ไม่รอลงอาญา

ศาลสั่งจำคุกจำเลยข่มขืนนักท่องเที่ยวต่างชาติรายนี้มีขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 31 พ.ค. ศาลจังหวัดเกาะสมุยได้อ่านคำพิพากษา เลขคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.474/62 หมายเลขแดงที่ 464/62 คดีที่นายเรวัต หรือมอส หาญสุวรรณ อายุ 34 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช เป็นจำเลยในคดีข่มขืนนักท่องเที่ยวสัญชาตินอร์เวย์ โดยศาลจังหวัดเกาะสมุยพิเคราะห์แล้วพบว่าจำเลยกระทำผิดมาแล้วหลายคดีจนเป็นปกตินิสัย ประกอบกับการกระทำของจำเลยทำให้นักท่องเที่ยวขาดความเชื่อมั่นความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน อันเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคลอื่นจึงเห็นสมควรลงโทษสถานหนักจำคุก 12 ปีและเพิ่มโทษหนึ่งในสาม เป็นจำคุก 16 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 8 ปีโดยไม่รอลงอาญา

ด้าน พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า สำหรับคดีเกิดขึ้นเมื่อช่วงดึกวันที่ 12 พ.ค.62 มีแหม่มสาว อายุ 26 ปี สัญชาตินอร์เวย์เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.กฤษฎา ทองสกุล รอง สว. (สอบสวน) สภ.เกาะพะงัน ว่าเดินทางมาท่องเที่ยวที่งานฮาล์ฟมูล ปาร์ตี้ หมู่ 3 ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน ระหว่างเดินทางกลับที่พักได้พบกับคนร้ายเป็นชายขี่รถจักรยานยนต์ ทำทีเป็นพลเมืองดีอ้างว่าจะช่วยหากระเป๋าที่สูญหาย ก่อนพาขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์พาไปที่เปลี่ยวแล้วใช้กำลังบังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่

...

หลังรับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะพะงัน ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด บนถนนสายบ้านใต้-บ้านท้องศาลา พบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายเรวัต หรือมอส หาญสุวรรณ แหม่มผู้เสียหายดูภาพถ่ายยืนยันว่าใช่คนเดียวกันที่ใช้กำลังข่มขืน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลจังหวัดเกาะสมุยออกหมายจับนายเรวัตและตามจับกุมนายเรวัตได้ที่ร้านซ่อมรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่งบนเกาะพะงัน สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ

“คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ความสำคัญในการติดตามจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็วเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญใน จ.สุราษฎร์ธานี ไม่ว่าจะเป็นเกาะพะงันหรือเกาะสมุยมีความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามที่นโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่คอยดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชน อีกทั้งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับการท่องเที่ยว และเป็นการป้องปรามไม่ให้มีการก่อเหตุลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นอีก” พล.ต.ต.อภิชาติกล่าว