ผบช.ภาค 8 แถลงจับเดนคุกข่มขืนแหม่มนอร์เวย์ คุมทำแผนเข้มกลัวคนเกาะพะงันกระทืบ กำชับแหล่งท่องเที่ยวต้องไม่เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก ชื่นชมตำรวจจับเร็วใน 24 ชั่วโมง พบประวัติก่อคดีอื้อ ทั้งพยายามฆ่า อาวุธปืน ยาเสพติด
เวลา 10.20 น. วันที่ 14 พ.ค. ที่ห้องประชุม สภ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผบช.ภ.8 พร้อมนายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี และ พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี แถลงจับกุม นายเรวัต หรือมอส หาญสุวรรณ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 7 ต.ขนอม อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช อาชีพรับจ้าง ผู้ก่อเหตุทำร้ายและข่มขืน นางสาวรีเบคกา คาร์ลเซน อายุ 26 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาตินอร์เวย์ เหตุเกิดเวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 12 พฤษภาคม 2562 ที่บริเวณริมถนนลูกรังในซอยตรงข้ามห้างบิ๊กซี สาขาเกาะพะงัน หมู่ 1 ตำบลเกาะพะงัน อำเภอเกาะพะงัน ตามหมายจับศาลจังหวัดเกาะสมุย ที่ จ.37/2562 ลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2562 ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในสภาวะไม่สามารถขัดขืนได้
พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ กล่าวว่า คดีนี้ทำให้เสื่อมเสียและเสียหายต่อภาพลักษณ์ธุรกิจการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจิดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญมาก เพราะการท่องเที่ยวนำมาซึ่งความเจริญให้กับพื้นที่ โดยผู้ต้องหารายนี้รับสารภาพเพราะจำนนต่อหลักฐาน และข้อเท็จจริงพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นผู้เสียหายอาจจะดื่มมากจากการไปท่องเที่ยวในสภาพที่ไม่อาจมีสติขัดขืนต่อสู้ คนร้ายได้จึงล่อลวงไปทำร้ายร่างกายบังคับใช้กำลังขืนใจผู้เสียหาย

...
“โชคดีภายใต้การอำนวยของ พล.ต.ต.อภิชาติ ลงมาอำนวยการด้วยตัวเองทำให้จับกุมคนร้ายได้ภายใน 24 ชั่วโมง ถือเป็นประสิทธิภาพการทำงานที่ได้เน้นย้ำจะสนองต่อนโยบายผู้บังคับบัญชาทุกระดับเสมอมาและเป็นเชิงป้องปรามลักษณะเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นเด็ดขาด ถ้าเกิดขึ้นจะต้องจับกุมให้ได้รวดเร็วอย่างนี้ ซึ่งการดูแลความปลอดภัยแหล่งท่องเที่ยวมีจุดตรวจจุดสกัดเป็นมาตรการอยู่แล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุต้องจับกุมให้ได้โดยรวดเร็วและดำเนินคดีถึงที่สุดที่ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างโดยดูข้อกฎหมายให้ครบถ้วนในสำนวนสอบสวน” พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ กล่าว
ด้านนายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การก่อคดีเช่นนี้ทำให้เสียภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว เสียชื่อเสียงของจังหวัด ซึ่งรัฐบาลกำลังส่งเสริมการท่องเที่ยวทุกรูปแบบแต่มาเจอคนที่ทำไม่ดีทำให้จังหวัดสุราษฎร์ธานีเสียชื่อเสียง ซึ่งผู้ต้องหาคนนี้มีประวัติโชกโชนหลายคดี ขอให้ตำรวจพิจารณาข้อหาต่างๆ ให้เต็มที่ เพราะไม่หลาบจำต่อความผิดที่เคยทำมาและยังมาสร้างความเสียหายที่สุราษฎร์ธานีอีก ต้องขอบคุณตำรวจที่คลี่คลายคดีนี้ด้วยความรวดเร็ว
วันเดียวกัน พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พร้อมนายวิชวุทย์ และ พล.ต.ต.อภิชาติ ได้ไปดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ บริเวณริมถนนลูกรังในซอยตรงข้ามห้างบิ๊กซี สาขาเกาะพะงัน หมู่ 1 ต.เกาะพะงัน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยแน่นหนา เนื่องจากประชาชนเกาะพะงันมีความโกรธแค้นที่คนร้ายเป็นคนต่างจังหวัด มาอาศัยทำงานในพื้นที่กลับก่อเหตุกับนักท่องเที่ยว ซึ่งนายเรวัต ผู้ต้องหาให้การว่า เวลา 22.00 น. คืนวันที่ 11 พฤษภาคม 2562 ได้ขับรถคันก่อเหตุออกจากที่พักร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ไปนั่งดื่มเบียร์ที่ร้านคาราโอเกะถึงเวลา 01.00 น. วันที่ 12 พฤษภาคม จากนั้นไปกินข้าวอีกร้านไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ ถึงเวลา 02.00 น. ขับรถออกมาพบผู้เสียหายยืนอยู่กับเพื่อนชาย ริมถนนสายบ้านท้องศาลา ตรงข้ามธนาคาร ธ.ก.ส. จึงจอดรถสอบถามผู้เสียหาย ทราบว่ากำลังตามหากระเป๋าเงินที่หายไป จึงอาสาจะพาไปส่งและขึ้นซ้อนท้ายรถ โดยเพื่อนชายได้แยกกลับไป
"ตอนแรกคิดว่าผู้เสียหายยอมไปด้วยจึงขับพาไปที่ห้องพักที่ร้านซ่อมรถ แต่เมื่อไม่ยอม จึงขับพาไปยังบริเวณริมชายทะเลบ้านท้องศาลา ชกต่อยที่ท้องแล้วลงมือข่มขืนกระทำชำเราเสร็จแล้วปล่อยทิ้งผู้เสียหายไว้ตามลำพัง ตัวเองขับรถกลับที่พักไปทำงานอยู่ที่ร้านซ่อมรถตามปกติ" นายเรวัต กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติคดีนายเรวัต พบว่า เคยกระทำผิดมา 8 คดี ประกอบด้วย ปี 2549 สภ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น” ปี 2551 สภ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ข้อหา “วิ่งราวทรัพย์” ปี 2554 สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ข้อหา “มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครอง” ปี 2555 สภ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ข้อหา “ลักทรัพย์” ปี 2558 สภ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ข้อหา “เสพขับ” ปี 2559 สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ข้อหา “เสพยาเสพติด” และปี 2559 สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ข้อหา “ครอบครองยาเสพติด” เพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำนครศรีธรรมราชเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2562 โดยจะให้พนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน รวบรวมพยานหลักฐานให้มากที่สุดและทำคดีอย่างรัดกุมส่งฟ้องต่อไป
ต่อมา นายเกรียงไกร ฮั่นวิริยะนนท์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน พร้อมตัวแทนผู้ปกอบการท่องเที่ยวเกาะพะงัน ได้มอบช่อดอกไม้แสดงความขอบคุณต่อ พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายและคลี่คลายคดีได้รวดเร็ว เป็นการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยการท่องเที่ยวให้กับเกาะพะงัน.