ฉาวภูธรภาค9 เอาผิด-อาญา พ่วงด้วยวินัย!
สั่งเด้ง 3 ด.ต.แก๊งพัวพันอุ้ม ส.ต.ท.ไปประจำ ศปก.บก.สส.ภาค 9 พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงหากพบกระทำผิดจริงต้องถูกดำเนินการทั้งทางอาญาและวินัย ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนในพื้นที่ สอบปากคำผู้หมู่เหยื่อแก๊งสีกากีเพิ่มเติมก่อนสรุปสำนวนส่ง ป.ป.ช.ภายใน 30 วัน
กรณี ส.ต.ท.สัญลักษณ์ จันทร์ดำ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ รอง ผบช.ภ.9 ที่สำนักงานตำรวจภูธร ภาค 9 ส่วนหน้า จ.ยะลา เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่ถูกตำรวจชุดสืบสวน บช.ภ. 9 กว่า 10 คนอุ้ม ส.ต.ท.สัญลักษณ์กับพวกขึ้นรถไปขังไว้ที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตั้งข้อหามีอาวุธปืนของทางราชการออกนอกพื้นที่ไว้ในครอบครองและพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ แต่กลับเรียกค่าไถ่รวมกันเป็นเงินจำนวน 5 แสนบาท เพื่อแลกกับอิสรภาพ ภายหลังต่อรองจนเหลือ 2 แสนบาทจึงให้แม่ไปหาเงินมาได้ 120,000 บาทและยึดรถเก๋งส่วนตัวไปอีก 1 คัน แต่แก๊งสีกากีนอกรีตกลับนำรถเก๋งของผู้เสียหายไปขายให้กับแก๊งค้ายาเสพติด ภายหลัง ส.ต.ท.สัญลักษณ์ได้นำหลักฐานเข้าแจ้ง สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ท้องที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินคดีกับแก๊งสีกากีนอกรีตแล้ว
ต่อมาเมื่อวันที่ 12 พ.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณี ส.ต.ท.สัญลักษณ์ จันทร์ดำ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ได้มีหนังสือร้องมีชายอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า กว่า 10 คนยึดอาวุธประจำกาย 2 กระบอก อุ้มขึ้นรถกระบะพร้อมเพื่อนอีก 5 คน ไปเรียกค่าไถ่เป็นเงินกว่า 5 แสนบาท แต่ต่อรองเหลือ 2 แสนบาท โดยให้เป็นเงินสดพร้อมรถยนต์ 1 คัน
...
คดีนี้เบื้องต้น บก.สส.ภ.9 ต้นสังกัดของตำรวจทีมอุ้มได้มีคำสั่งให้ ด.ต.ธีระยุทธ สุวรรณรัตน์ ผบ. หมู่ กก.สส.3 บก.สส.ภ.9 ด.ต.สิรภพ หมื่นหนู ผบ. หมู่ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.ภ.9 และ ด.ต.พิรชัช หวันเส้ง ผบ.หมู่ กก.ปฏิบัติการพิเศษ บก.สส.ภ.9 ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ศปก.บก.สส.ภ.9) พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากผลการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า กระทำผิดจริงจะดำเนินการทั้งทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาด ไม่มีการให้ความช่วยเหลือหรือปกป้องผู้ที่กระทำความผิด
รองโฆษก ตร.เผยต่อว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กำชับให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา สืบสวน ขยายผล และจับกุมผู้ที่สนับสนุนหรือที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด ที่ผ่านมา ผบ.ตร.กำชับและสั่งการมาโดยตลอด ห้ามเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อำนาจหน้าที่ประพฤติผิดในทางมิชอบ แสวงหาหรือปฏิบัติหน้าที่อันเป็นการเหลื่อมล้ำกับกฎหมาย สร้างความเดือดร้อนแก่สังคม เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติงานด้วยความสุจริต ยุติธรรม ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบของกฎหมาย และยังมีข้อสั่งการไปยังกองบัญชาการทุกภาคส่วนให้ผู้บังคับบัญชาควบคุม เสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ ทั้งเวลาราชการและนอกเวลาราชการ
“หากพบว่าตำรวจเป็นผู้กระทำความผิดเสียเอง ผบ.ตร.ยอมรับไม่ได้ ต้องเอาผิดให้ถึงที่สุดทั้งทางวินัยและทางอาญาอย่างเด็ดขาด รวมทั้งผู้บังคับบัญชาที่ไม่ใส่ใจ ไม่กำกับดูแลความประพฤติ การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชาจะถูกพิจารณาโทษด้วยเช่นกัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมและสร้างความยุติธรรม” พ.ต.อ.กฤษณะกล่าว
ช่วงสายวันเดียวกันที่ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ส.ต.ท.สัญลักษณ์ จันทร์ดำ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ผู้เสียหายได้ให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ โดยใช้เวลานาน 4 ชั่วโมง จากนั้นพนักงานสอบสวนเร่งสรุปคดีเพื่อเตรียมยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ภายใน 30 วัน เนื่องจากผู้ที่ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าพนักงานที่กระทำผิดไม่ใช่ประชาชนต้องยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการโดยมีหลักฐานสำคัญหลายอย่างโดยเฉพาะข้อความที่มีการแชตคุยกันผ่านสื่อโซเชียล เรื่องรถเก๋งที่ถูกนำไปขายต่อให้กับผู้ค้ายาเสพติด ขณะนี้ได้ประสานงานตำรวจ สภ.บางกล่ำ ติดตามยึดรถคืนโดยเร็ว