ผบช.ภ.8 สั่ง ผบก.ภ.จ. นครศรีธรรมราช ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงคลิปฉาวบิ๊กข้าราชการเบ่งใส่ตำรวจ ไม่ยอมให้ตรวจใบ ขับขี่แถมอ้างเป็นเพื่อน ผกก. ให้รายงานผลวันที่ 14 พ.ค. แจงข้อกฎหมายหากเจ้าพนักงานมีคำสั่งต้องปฏิบัติตาม แต่กรณีนี้ขอตรวจสอบรายละเอียดทุกแง่มุมก่อน ยังไม่มีคำสั่งย้ายใคร ยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พร้อมให้กำลังใจและชมเชยการปฏิบัติงานของตำรวจชั้นผู้น้อย ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ชี้เป็นบทเรียนสำคัญในการปฏิบัติงาน หลังคลิปหลุดสู่สาธารณะ

ทำเจ็บตัวทั้ง 2 ฝ่าย ขณะที่นายกฯกำชับให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดให้ชัดเจน กระแสโซเชียลวิจารณ์สนั่น ชาว เน็ตอารมณ์ขันทำคลิปล้อเลียน “ผมเพื่อนโชค” แชร์ว่อนโลกออนไลน์กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อื้ออึงกระหึ่มโลกโซเชียล จากคลิปเหตุการณ์ตำรวจจราจร สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ตั้งด่านตรวจบริเวณจุดกลับรถภูตะวัน หมู่ 2 เขตเทศบาล ต.ท่ายาง เมื่อตอนค่ำวันที่ 2 พ.ค. เรียกตรวจรถเก๋งคันหนึ่งชายคนขับไม่ยอมให้ดูใบขับขี่ อ้างตัวเป็นข้าราชการระดับสูงในแวดวงยุติธรรมและเป็นเพื่อนกับ พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ ก่อนขับรถออกจากด่านไป ภายหลัง ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ มีคำสั่งย้าย ส.ต.ต.เอกพล จุ้ยส่องแก้ว และ ส.ต.ท.ธีระพงษ์ เพชรจันทร์ทอง สองตำรวจที่เรียกตรวจรถคันดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่อื่นแทนจราจร แต่ต่อมาผู้บังคับบัญชามีคำสั่งยกเลิกคำสั่งย้ายตำรวจจราจรทั้ง 2 นายให้กลับไปปฏิบัติหน้าที่เดิม

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 10 พ.ค. พล.ต.ต.ฐากูร เนตรพุกกณะ ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช เดินทางไปที่ สภ.ทุ่งใหญ่ เรียก พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ผกก. พร้อมด้วย ส.ต.ท.ธีระพงษ์ เพชรจันทร์ทอง และ ส.ต.ต.เอกพล จุ้ยส่องแก้ว สองตำรวจจราจรที่ขอตรวจใบขับขี่จากชายที่อ้างตัวเป็นข้าราชการ ระดับสูงในแวดวงยุติธรรมเพื่อสอบถามรายละเอียดของเรื่องที่เกิดขึ้น ใช้เวลาประมาณ 30 นาที

...

พล.ต.ต.ฐากูรเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนอื่นต้องขอชื่นชมการทำงานของตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่เข้มแข็งอย่างถูกต้อง แต่การที่มีคลิปเผยแพร่ออกไปสู่สาธารณะอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของ 2 หน่วยงานระหว่างตำรวจกับศาลยุติธรรม เปรียบเสมือนนักมวยขึ้นชกจะมีแผลแตกยับเยินทั้งคู่ ขอให้การทำงานในครั้งนี้เป็นบทเรียนอันยิ่งใหญ่ ส่วนเรื่องที่ ผกก.มีคำสั่งให้ตำรวจจราจรทั้ง 2 นาย มาปฏิบัติหน้าที่สายตรวจคู่กับตัวเองนั้น ผู้บังคับบัญชามีคำสั่งออกมาแล้วให้ทั้งคู่ปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม ส่วนที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่ามีคำสั่งย้าย ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ ศปก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช นั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด จากนั้น ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ได้พา พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ และ ส.ต.ต.เอกพล จุ้ยส่องแก้ว เดินทางไปพบ พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผบช.ภ.8 เพื่อชี้แจงถึงรายละเอียดที่เกิดขึ้น

ด้าน พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผบช.ภ.8 ให้ สัมภาษณ์ระหว่างแถลงข่าวจับยาเสพติดที่ บก.ภ.จ. ชุมพร ว่า สั่งการให้ ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดให้รายงานผลในวันที่ 14 พ.ค.นี้ ต่อข้อถามถึงกรณีที่ตำรวจเรียกดูใบขับขี่แล้วไม่ให้ดูจะถือว่ามีความผิดทางอาญาฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานหรือไม่ พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ ตอบว่าได้ดูจากคลิปต้องขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อน ไม่อยากสรุปเร็วเกินไป หลังจากวันที่ 14 พ.ค. จะแจ้งให้สื่อมวลชนและประชาชนทราบ อย่างไรก็ตามเมื่อเจ้าพนักงานมีคำสั่งทั่วไปแล้วจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน แต่กรณีนี้ต้องขอตรวจสอบรายละเอียดทุกแง่ทุกมุมก่อน บางทีคลิปต่างๆ อาจจะดูไม่ครอบคลุมทั้งหมด ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่และคู่กรณีไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือผู้ใดก็ตาม ถ้าสิ่งใดตำรวจทำไม่ถูกต้องก็มีระเบียบวินัยและข้อกฎหมายอยู่แล้ว แต่ถ้าทำถูกต้องก็ต้องชมเชยให้กำลังใจการทำงานของตำรวจ ต้องอดทน และอยู่ในกรอบของกฎหมาย บางครั้งอาจไม่ถูกใจประชาชนบ้าง ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงาน กรณีนี้เท่าที่ดูเบื้องต้นคิดว่าทำงานได้ดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังเกิดเหตุหน่วยงานหรือคู่กรณีได้ออกมาพูดคุยชี้แจงกับตำรวจบ้างหรือไม่ ผบช.ภ.8 กล่าวว่า เป็นเรื่องของแต่ละหน่วยงานขององค์กรนั้น ในส่วนตำรวจก็มาดูในบ้านตนเองว่าผู้ใต้บังคับบัญชากระทำถูกต้องหรือไม่อย่างไร คำสั่งย้าย ส.ต.ต.เอกพล จุ้ยส่องแก้ว ตนมีคำสั่งให้กลับไปปฏิบัติหน้าที่เหมือนเดิมแล้ว ส่วนจะเป็นข้อบาดหมางหรือความขัดแย้งระหว่างองค์กรหรือไม่นั้น ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรถ้าตำรวจทำงานแบบชัดเจนตรวจสอบได้ ทั้งนี้ ความชัดเจนทั้งหมดต้องรอผลจากคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงในที่ 14 พ.ค.นี้

ที่ บช.ภ.8 จ.ภูเก็ต ช่วงเย็นวันเดียวกัน พล.ต.ต.ฐากูร เนตรพุกกณะ ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ และ ส.ต.ต.เอกพล จุ้ยส่องแก้ว เข้าพบ พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผบช.ภ.8 เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้น พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ เผยว่า หลังได้รับรายงานจาก ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ตนสั่งการให้ดำเนินการ คือ 1.ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้ ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วรายงานให้ทราบ ภายในวันที่ 14 พ.ค. และ 2.กรณีที่ ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช มาวันนี้เพื่อรายงานให้ตำรวจภูธรภาค 8 ทราบข้อมูลเบื้องต้น ส่วน ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ เรียกมาพบเพราะต้องการทราบข้อเท็จจริงเช่นกัน ที่เรียกมาทั้งคู่เพื่อไม่ต้องโทรศัพท์คุยกันหลายรอบ ขอเวลาในการตรวจสอบข้อเท็จจริงและดูผลการตรวจสอบก่อนจึงจะสามารถสรุปผลได้ จะให้ความเป็นธรรมทั้งผู้ใต้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นและยังไม่มีการโยกย้ายใครไปไหน

“ขอตรวจสอบข้อเท็จจริงในองค์กรของผมก่อน ทำการบ้านในหน่วยผมก่อน อย่าเพิ่งขยายวงออกไปกว้างกว่านี้เลย แต่ละหน่วยก็ทำหน้าที่ของตัวเองไป ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช เป็นกรรมการ ตรวจสอบ ทุกส่วนทุกองค์กรผมคิดว่ามีความผิดพลาด แต่ถ้าเขาตั้งใจทำงานก็น่าจะเข้าใจนะครับ ส่วนน้องเอกพลก็มีขวัญกำลังใจดี ผู้บังคับบัญชาไม่ได้ไปทำอะไรเขา มีแต่ให้กำลังใจ ส่วนในคลิปที่ปรากฏผมคิดว่าเขาก็โอเคนะครับในการปฏิบัติหน้าที่” ผบช.ภ.8 กล่าว

...

ก่อนหน้านี้ในช่วงบ่ายวันที่ 9 พ.ค. ข้าราชการระดับสูงที่ตกเป็นข่าวในคลิปไม่ยอมให้ตำรวจตรวจใบขับขี่ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวไทยรัฐทีวีว่า “เดี๋ยวสำนักงานตำรวจแห่งชาติเขาชี้แจงเอง ดูในคลิปก็รู้ว่ามันไม่หมด มีก่อนหน้านี้ที่คุยกัน ระดับล่างก็รายงานไปว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เขาก็แถลงของเขาไปไม่เกี่ยวกับผม เรื่องนี้ไม่มีอะไร ไม่มีการทะเลาะอะไรกันเลย มีปัญหาที่คนเอาไปแชร์ต่อเขาไปถามพรรคพวกเพราะคิดว่าเป็นผู้พิพากษา ปลอม เรื่องมันบานปลาย จริงๆผมไม่มีอะไรกัน ผมบอกว่าผมไม่คุยกับเขาเพราะความเห็นไม่ตรงกัน บอกว่าขอคุยกับหัวหน้าชุด ก็ตามคลิปนั่นแหละ แต่คลิปก่อนที่ผมพูดกับเขาไม่มี” ต่อมาช่วงเย็นวันที่ 10 พ.ค. ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปสอบถามข้าราชการระดับสูง คนดังกล่าวอีกครั้งเพื่อให้ชี้แจงถึงกระแสข่าวที่เกิดขึ้น ได้รับคำตอบเพียงสั้นๆว่า “เป็นเรื่องของสำนักงานศาล ให้ไปตามที่สำนักงานศาลเอง” ก่อนจะวางสายไป

พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ได้รับรายงานกรณีคลิปตำรวจ จ.นครศรีธรรมราช ขอตรวจใบขับขี่ผู้อ้างตัวเป็นข้าราชการระดับสูงในแวดวงยุติธรรมจนทำให้ตำรวจรายดังกล่าวถูกสั่งย้าย เบื้องต้นทราบว่าเป็นการปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ จึงสั่งการผ่านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้ย้ายตำรวจรายนี้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเดิมแล้ว พร้อมกำชับให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดให้ชัดเจนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย นอกจากนี้ นายกฯยังชมเชยและให้กำลังใจตำรวจชั้นผู้น้อยในการปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้อง และขอให้ทุกคนยึดมั่นในสิ่งที่ถูกที่ควรโดยไม่เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ พร้อมกันนี้ยังขอให้สำนักงานศาลยุติธรรมพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าบุคคลในคลิปเป็นข้าราชการศาลจริงหรือไม่ เพื่อให้เกิดความกระจ่างแก่สังคมด้วย

...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลายเป็นเรื่องที่ผู้คนในสังคมให้ความสนใจพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานา ส่วนใหญ่ชื่นชมการทำงานของตำรวจชั้นผู้น้อยที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ถ้าชายคนที่อ้างตัวเป็นข้าราชการระดับสูงแสดงใบขับขี่ให้ตำรวจดูเรื่องก็คงจบด้วยดี แต่กลับอ้างตำแหน่งใหญ่โตแถมยังบอกว่าเป็นเพื่อน ผกก.โชค หลังคลิปฉาวแชร์ว่อน แทนที่ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ จะปกป้องลูกน้องตัวเอง กลับมีคำสั่งย้ายให้ไปปฏิบัติหน้าที่อื่น กระทั่งกระแสโซเชียลจวกยับจนผู้บังคับ บัญชาต้องระงับคำสั่ง ขณะเดียวกันบรรดาชาวเน็ตต่างทำคลิปล้อเลียนจากประโยคเด็ด “ผมเพื่อนโชค” เพื่อไม่ให้ตำรวจตรวจใบขับขี่ กลายเป็นเรื่องเหน็บแนมแกมประชดประชันสร้างความขำขันกันว่อนโลกโซเชียล