ทหารพรานปะทะโจรใต้ เข้ามาเคลื่อนไหวหาแนวร่วมใน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ฝ่ายตรงข้ามบาดเจ็บแต่หนีเข้าป่าไปได้ ยึดปืน ทำลายที่พัก ส่วน อ.หนองจิก จนท.พบเป้สนามวางทิ้งไว้ในป่า
วันที่ 6 พ.ค. พ.อ.ภูมิพัฒน์ บุญเรืองขาว ผบ.ทพ.44 พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 ได้เกิดปะทะกับกลุ่มคนร้ายบริเวณบ้านมะนังยง หมู่ 4 ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี หลังจากได้รับรายงานว่า พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบระดับปฏิบัติการเข้ามาระดมสมาชิกแนวร่วม เตรียมวางแผนก่อกวนในพื้นที่
ขณะหน่วยกำลังลาดตระเวนเดินเท้าเข้ามาในพื้นที่เป้าหมาย ปรากฏว่าเกิดเผชิญหน้ากับกลุ่มคนร้ายบริเวณป่าละเมาะ คนร้ายคาดว่ามีประมาณ 2-3 คนชักอาวุธปืนยิงใส่ก่อนหวังจะเปิดทางหนี เจ้าหน้าที่จึงยิงตอบโต้ ก่อนที่คนร้ายจะฉวยจังหวะวิ่งหนีเข้าไปในป่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์พื้นที่ พบรอยเลือด คาดว่าเป็นเลือดของคนร้ายที่ได้รับบาดเจ็บ และพบอาวุธปืนขนาด .38 ของคนร้ายตกอยู่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้นประสานไปยังเจ้าหน้าที่ชุดสุนัขสงครามเข้ามาติดตามไล่ล่าคนร้าย คาดว่าจะน่าอาศัยเส้นทางป่าขึ้นเขาหลบหนีข้ามรอยต่อ จ.นราธิวาส ส่วนเจ้าหน้าที่หลังเหตุปะทะปลอดภัยทุกนาย นอกจากนี้สามารถยึดที่พักชั่วคราว ที่มีการกางผ้าเต็นท์ทำหลังคา และอุปกรณ์ยังชีพ นำไปตรวจพิสูนจ์ทางนิติวิทยาศาสตร์ว่าตรงกับกลุ่มใด
หลังเกิดเหตุ พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำชับให้หน่วยปฏิบัติด้วยความระมัดระวังในการติดตามคนร้ายที่บาดเจ็บต่อไป ทั้งนี้ ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามการแจ้งข่าวพบความเคลื่อนไหวบุคคลต้องสงสัย จึงได้มีการจัดกำลังเข้าตรวจสอบและเกิดการปะทะขึ้น ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามนโยบายแม่ทัพภาคที่ 4 ด้วยการจัดกำลังจรยุทธ์เข้ากดดัน จำกัดเสรีและผลักดันผู้ก่อเหตุรุนแรงไม่ให้มาหลบซ่อนพักพิงในหมู่บ้านเพื่อสร้างความปลอดภัยให้ประชาชนในห้วงเดือนรอมฎอน พร้อมขอให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแลบุคคลต้องสงสัยหากตรวจพบขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทราบเพื่อดำเนินการต่อไป
...
ขณะที่ พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผบ.ทพ.43 นำกำลังหน่วยทหารพราน ร้อย ทพ.4314 และตำรวจ สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี เข้าไปตรวจสอบบริเวณป่าพื้นที่ ม.7 ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก หลังได้รับรายงานจากหน่วยกำลังทหารพรานว่า ขณะเดินลาดตระเวนพื้นที่ดังกล่าว ตามริมแม่น้ำปรากฏว่าพบป่าสภาพโปร่ง มีร่องรอยการเหยียบย่ำของคน จึงเข้าตรวจสอบ
พบเป้สนาม ภายในบรรจุเปลสนาม อาหาร และเครื่องกระสุนปืนจำนวนมากคละชนิดและขนาด กว่า 100 นัด จึงตรวจยึดไว้ส่งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพื่อตรวจหาร่องรอยว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มใดบ้าง.