DSI บุกช่วย 12 สาวลาวถูกนำมาค้าประเวณีที่สุไหงโก-ลก มีพาสปร์อตพร้อม แต่ 2 คนอ้างพาสปอร์ตหมดอายุ และอายุต่ำกว่า 18 สารภาพได้ค่าตัว 1,500-3,000 โดนร้านหัก 50%
เวลา 20.30 น. ของวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา พ.ต.ต.มิตร พรหมมา ผอ.ส่วนคดีการค้ามนุษย์ นายณรงค์ ทิพย์ศิริ ผอ.ส่วนกำกับสืบสวนและปราบปราม สำนักการสอบสวนและนิติการกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย นายมานะ สิมมา ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมกับนายปรีชา นวลน้อย นายอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.นราธิวาส นำกำลังเข้าตรวจค้นร้านคาราโอเกะรีแลคผับ ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 97/23 ถ.เจริญเขต ซอย 3 เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากองค์กรพัฒนาเอกชน OUR ได้รับแจ้งเบาะแสให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ และชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ทราบว่ามีการนำหญิงชาวลาวเข้ามาค้าประเวณีที่ร้านอย่าอิจฉา อ.เชียงคาน จ.หนองคาย ซึ่งชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองได้ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าทำการสืบสวนจับกุมผู้ประกอบการร้านอย่าอิจฉา และช่วยเหลือหญิงชาวลาวได้จำนวน 10 คน เมื่อวันที่ 21 มี.ค.62 ที่ผ่านมา
จากการสืบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่ ทราบว่าเด็กสาวชาวลาว 1 ใน 10 คน เคยมาทำงานอยู่ค้าประเวณีอยู่ที่ร้านคาราโอเกะรีแลคผับ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จากการบุกตรวจค้นของเจ้าหน้าที่พบหญิงสาวชาวลาว จำนวน 12 คนอยู่ภายในร้าน โดยมีนายอานนท์ หาแก้ว อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 ม.12 ต.หนองใหญ่ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ รับเป็นเจ้าของร้าน และนายศักดา คำกัลยา อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 ม.12 ต.หนองใหญ่ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ รับเป็นผู้ดูแล รวมกับพนักงานอีก 2 คน
...
ตรวจสอบหลักฐานเอกสารหนังสือเดินทาง พบว่า ทั้ง 10 คนมีหนังสือเดินทางถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่มีเอกสารเข้ามาทำงานในราชอาณาจักร ส่วนหญิงสาวชาวลาวอีก 2 คน ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าอายุต่ำกว่า 18 ปี แต่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหนังสือเดินทาง พบว่าหนังสือเดินทางหมดอายุ โดยร้านดังกล่าวเปิดเป็นร้านคาราโอเกะ แต่ลูกค้าสามารถซื้อหญิงบริการออกไปร่วมประเวณีได้ ในอัตรา 1 ชั่วโมง ราคา 1,500 บาท โดยทางร้านจะได้รับส่วนแบ่งจำนวน 750 บาทต่อครั้งต่อคน หากค้างคืน ราคา 3,000 บาท ทางร้านจะได้รับส่วนแบ่งจำนวน 800 บาทต่อครั้งต่อคน แต่หญิงบริการจะได้รับค่าตัวตอนช่วงสิ้นเดือน เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวหญิงสาวชาวลาวทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการคุ้มครอง และคัดแยกยังบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.นราธิวาส โดยมีทีมสหวิชาชีพ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำการสอบสวนอย่างละเอียด เนื่องจากมีหญิงสาวชาวลาว 2 คนระบุว่าตนเองมีอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยเจ้าหน้าที่จะมีการส่งตัวไปตรวจอายุกระดูกที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อยืนยันอายุที่แท้จริงต่อไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายอานนท์ เจ้าของร้าน และผู้ดูแลอีก 3 คน จำนวน 4 ข้อหา คือ 1. ร่วมกันเป็นธุระจัดหาให้มีการค้าประเวณี 2.เป็นเจ้าของสถานการค้าประเวณี 3.ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 4.รับคนต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานเข้าทำงาน ซึ่งหากผลการตรวจอายุกระดูกของหญิงบริการออกมาว่าอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ เจ้าหน้าที่จะได้พิจารณาร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติมให้มีการดำเนินคดีกับผู้ประกอบการในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ต่อไป และหากพบหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงบุคคลใดเจ้าหน้าที่จะได้พิจารณาดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย
ด้านนายปรีชา นวลน้อย นายอำเภอสุไหงโก-ลก กล่าวว่า การบุกจับกุมในครั้งนี้เป็นการขยายผลจากการจับกุมหญิงชาวลาวที่ อ.เชียงคาน และหญิงสาวชาวลาวที่จับกุมได้จำนวน 12 คน แยกออกเป็นมีหนังสือเดินทางถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่มีใบอนุญาตขอเข้ามาทำงาน ส่วนอีก 2 คน มีหนังสือเดินทางแต่หมดอายุ และได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าอายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนในการตรวจสอบกระดูก ว่าจริงเท็จหรือไม่อย่างไร ก่อนที่จะมีกระบวนการผลักดันกลับประเทศต่อไป.