พมจ.ชุมพร รุดช่วย 3 เด็กหญิง 1 เด็กชาย ถูกเจ้าของสวนยางข่มขืน ขณะที่ ด.ญ.วัย 14 ปี ยังผวาเขียนป้ายเก็บตัวเงียบ ไม่ยอมออกมาพบปะผู้คน ชี้ เสี่ยงถูกคุกคามจึงพาย้ายออกจากพื้นที่...

จากกรณีนางหญิง (นามสมมติ) อายุ 52 ปี ชาวบ้านอยู่ ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร ร้องเรียนผู้สื่อข่าว ลูกสาวอายุ 14 ปี กับหลานชายอายุ 9 ปี และหลานสาวอีก 2 คน อายุ 7 ขวบ อายุ 5 ขวบ ถูกนายสุรินทร์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี นายจ้างเจ้าของสวนยางพาราข่มขืนกระทำชำเรามานานต่อเนื่องหลายครั้ง จนเรื่องมาแดงขึ้นผู้ปกครองได้พาไปแจ้งความที่ สภ.ปากน้ำหลังสวน และจับกุมนายสุรินทร์มาดำเนินคดีแล้วได้รับการประกันตัวในชั้นศาลจังหวัดหลังสวน และออกมาข่มขู่คุกคามจนครอบครัวต้องอยู่กันอย่างหวาดผวาตามข่าวที่เสนอนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 เมษายน 62 นายวิบูลย์ รัตนาภรวงศ์ ผวจ.ชุมพร ได้สั่งการให้ นางสาววัลภา แก้วสวี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จ.ชุมพร พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้องในท้องถิ่น ได้ลงไปยังพื้นที่บ้านไม่มีเลขที่ในสวนมะพร้าว ตำบลบางมะพร้าว อ.หลังสวน พบกับนางหญิง พร้อมกับหลานชายวัย 9 ขวบ และหลานสาวอายุ 7 ขวบกับ 5 ขวบ ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศส่วน เด็กหญิงสวย นามสมมติ อายุ 14 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของนางหญิงที่ถูกข่มขืนด้วย ไม่ยอมออกมาพบกับเจ้าหน้าที่ โดยได้ปิดประตูห้องและเขียนข้อความในกระดาษติดไว้ที่ประตูห้องนอนว่า “กูขอร้องอย่าเรียกกูได้ไหม อย่าเคาะอย่าเรียกกู อย่าผลัก ไม่ต้องถามอะไรมาก กูรำคาญ ดูอารมณ์กูด้วย แหกตาดู” ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็เคารพสิทธิ์ไม่เรียกออกมาพูดคุยด้วยแต่อย่างใด 

...

ขณะที่ เด็กชายวัย 10 ขวบ ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 27 ก.พ.62 ตนถูกนายสุรินทร์ชักชวนให้ไปกินขนมที่ขนำในสวนยางพารา จากนั้นได้บังคับจับตนถอดกางเกงแล้วจับมือไพล่หลังกดคว่ำหน้า จากนั้นใช้อวัยวะเพศสอดใส่ในช่องทวารหนัก ตนร้องไห้ก็ถูกมืออุดปาก กระทั่งตอนเที่ยงจึงปล่อยตนกลับบ้านแล้วบังคับไม่ให้ไปบอกใคร ไม่เช่นนั้นจะฆ่าตากับยายที่ตนอยู่อาศัยด้วยให้ตาย ต่อมายังถูกนายสุรินทร์พาไปข่มขืนทางทวารหนักอีก 3-4 ครั้ง จนกระทั่งมาวันที่ 22 มีนาคม 62 ตนเดินกลับบ้านในลักษณะขาถ่างทำให้ยายและตาสงสัยจึงได้คาดคั้นสอบถามจึงบอกความจริงให้รู้และพาไปแจ้งความกับตำรวจ ขณะที่เด็กหญิงอายุ 7 ขวบ และ 5 ขวบ ก็บอกในลักษณะเดียวกันว่าถูกนายสุรินทร์พาไปล่วงละเมิดทางเพศในขนำในสวนยางพาราหลายครั้งเช่นกัน

นางศรีผู้เป็นแม่และยายของเด็กที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ กล่าวว่า รู้สึกสบายใจมากขึ้นที่มีหลายหน่วยงานลงมาให้ความช่วยเหลือ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยที่ยังเป็นห่วงตอนนี้ก็คือ ลูกสาวของตนเองวัย 14 ปี ที่ถูกข่มขืนไม่กล้าออกไปไหน และไม่พบปะกับผู้คน ปิดประตูอยู่แต่ในห้องนอน ไม่ยอมกินข้าวกินปลา น้ำหนักตัวก็ลดลงมาก

ด้านนางสาววัลภา แก้วสวี พมจ.ชุมพร กล่าวว่า ได้มาพบและพูดคุยเรื่องนี้กับนางหญิงผู้เสียหายที่ลูกสาววัย 14 ปีถูกข่มขืน และแม่ของเด็กชายอายุ 9 ขวบ กับเด็กหญิง อายุ 7 ขวบ อีกและ 5 ขวบ คนในครอบครัวเดียวกันที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ เพื่อมาให้การช่วยเหลือ ซึ่งพบว่าสภาพบ้านค่อนข้างแออัดมีฐานะยากจน และมีโอกาสที่จะถูกกระทำซ้ำ เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นคนในพื้นที่ ช่วงแรกผู้ปกครองไม่ยินยอม แต่หลังจากพูดคุยทำความเข้าใจก็ยินยอมด้วยดี โดยจะให้เด็กชายอายุ 9 ขวบ เด็กหญิงอายุ 7 ขวบ และ 5 ขวบ ย้ายไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนในอำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร 

นางสาววัลภา กล่าวต่อว่า ที่น่าเป็นห่วงขณะนี้คือเด็กหญิงอายุ 14 ปี ที่ปิดประตูห้องไม่ยอมออกมาพบปะผู้คนแม้แต่เจ้าหน้าที่ เนื่องจากเขาถูกระทำซ้ำหลายครั้ง มีผลกระทบด้านสังคมและจิตใจค่อนข้างรุนแรง ซึ่งจะให้นักจิตวิทยามาพบเป็นการส่วนตัว และจะให้ไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนที่ อ.ท่าแซะ ด้วยเช่นกัน หลังจากหยุดเรียนมาในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งก็ต้องถามความสมัครใจของเด็กด้วย ส่วนเรื่องคดีความก็ได้ติดตามและประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาอย่างต่อเนื่อง 

...

ขณะที่ พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปะชัย ผบก.ภ.จว.ชุมพร กล่าวว่า วันนี้ตนได้สั่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำหลังสวน ได้นำสำนวนคดีมาให้ตนดูและสั่งให้ฝ่ายกลุ่มงานสอบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร เป็นผู้ตรวจสำนวนให้มีความละเอียดรัดกุมมากขึ้นในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ซี่งคดีที่เกิดขึ้นกับเด็กหญิงอายุ 14 ปี นานแล้วปีตั้งแต่ พ.ศ.2550-2557 จึงต้องใช้เวลาในการรวบรวมพยานหลักฐาน และผู้ต้องหายังมาก่อเหตุกระทำซ้ำกับเด็กชายและเด็กหญิงอีก 3 คน มีอายุตั้งแต่ 5-9 ปี ซึ่งเป็นญาติในครอบครัวเดียวกัน แต่ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายอย่างถึงที่สุด ส่วนกรณีที่มีการข่มขู่ผู้เสียหายตนได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ธราเทพ ตูพานิช ผกก.สภ.ปากน้ำหลังสวน เข้าไปดูแลอย่างเต็มที่แล้ว

ผบก.ภ.จว.ชุมพร กล่าวว่า ขณะนี้ได้แจ้งข้อหาแก่นายสุรินทร์ 4 ข้อหา คือ 1.พรากเด็กอายุไม่เกิน 13 ปีไปเสียจากบิดามารดาโดยไม่มีเหตุอันควรไปกระทำอนาจาร 2.พาบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปีไปทำอนาจารโดยใช้กลอุบาย 3.พยายามกระทำชำเราแก่เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี 4.พยายามกระทำชำเราเด็กอายุเกิน 13 ปี โดยอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้.

...