ปัจจุบัน จ.สตูลนั้นได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งใน “ไข่มุกอันดามัน” แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวจำนวนมาก จึงมีความจำเป็นในการพัฒนาเมือง พัฒนาสิ่งสาธารณูปโภคเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและความเจริญเติบโตของเมือง
นายสัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สตูล เปิดเผยถึงแผนพัฒนา จ.สตูล ว่า โดยปกติเศรษฐกิจ จ.สตูล ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก 4 ประการ คืออาชีพสวนยางพารา อาชีพทำสวนปาล์ม อาชีพทำประมง และการท่องเที่ยว แต่การประกอบอาชีพด้านการประมง สวนยางพารา และสวนปาล์มคงจะอยู่ยาก

...
ดังนั้น ต้องประกอบธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในอนาคตสำหรับความอยู่รอดของชาว จ.สตูล คือ การท่องเที่ยว เพราะการท่องเที่ยวจะเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
ประกอบกับ จ.สตูล มีทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวมากมาย ธรรมชาติสร้างแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามหลายแห่งทั้งทางบกและทางทะเล
ทางบก อาทิ ถ้ำภูผาเพชร ล่องแก่งวังสายทอง บ่อน้ำพุร้อนทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล และที่สำคัญอีกแห่งคือ อุทยานธรณีโลก จ.สตูล


ส่วนทางทะเลก็เป็นที่รู้กันว่ามีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามระดับโลกหลายแห่ง เช่น เกาะตะรุเตา เกาะหลีเป๊ะ เกาะไข่ เกาะหินงาม เกาะอาดัง–ราวี ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติของสตูลอุดมสมบูรณ์มากกว่าแหล่งท่องเที่ยวที่อื่นๆ
...
“ดังนั้น จะต้องมีการพัฒนาถนนหนทางที่เข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวในแต่ละแห่ง พัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ส่วนถนนสายหลักที่เชื่อมระหว่างสตูลกับต่างจังหวัดคือถนนสายสตูล-ตรัง ต้องขยายผิวจราจรให้ได้ 4 เลน เพราะจะเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ นักท่องเที่ยวที่จะเข้าสตูลและผ่านทางสนามบิน จ.ตรัง” นายสัมฤทธิ์ กล่าว

นายสัมฤทธิ์ เผยอีกว่า นอกจากนี้ ต้องพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้ดูดีขึ้น ต้องสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว รวมถึงพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของการท่องเที่ยวของสตูล
...

นอกจากสตูลจะมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญๆ และสวยงามหลายแห่งแล้ว ยังมีอาหารพื้นบ้านที่สดมีรสชาติอร่อยและราคาเป็นกันเอง เช่น ข้าวมันแกงตอแมะ ชาชัก และต่อไปนักท่องเที่ยวจะต้องประทับใจกับ “แพะหัน” เมืองสตูล โดยจะพัฒนาแพะหันของ จ.สตูลให้โด่งดังต่อไป
ของฝาก ต้องมีการคัดเลือกสินค้าดีมีคุณภาพไว้บริการนักท่องเที่ยวติดไม้ติดมือกลับไป เช่นขนมผูกรักของชาว ต.เจ๊ะบิลัง อ.เมืองสตูล ต้องพัฒนาให้ติดอันดับเทียบเท่าขนมเค้กเมืองสตูล อยากฝากบอกนักท่องเที่ยวที่จะเข้าท่องเที่ยวใน จ.สตูล อยากให้เข้าไปสัมผัสอาหารพื้นเมือง อาหารทะเลสดๆ ในราคายุติธรรมและของดีใน จ.สตูล
...

“ในอนาคตเราจะพัฒนาการท่องเที่ยว จ.สตูล ให้สามารถเทียบเท่าการท่องเที่ยวใน จ.กระบี่ และ จ.ภูเก็ต สิ่งสำคัญคือ จ.สตูลต้องมีการสร้างสนามบิน รวมทั้งสร้างถนนเชื่อม จ.สตูล-รัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย เพราะสามารถจะเป็นเมืองเปิดเพื่อให้นักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซียและอาเซียนเข้ามาเที่ยวใน จ.สตูลได้” นายสัมฤทธิ์ กล่าวอย่างมั่นใจ
สำหรับ ปัจจัยหลักอีกอย่างหนึ่งในการพัฒนาการท่องเที่ยว นายสัมฤทธิ์ ย้ำอีกว่า คือการสร้างหอประชุมสัมมนาขนาดใหญ่ๆขึ้น ต้องสร้างให้เป็นหอประชุมระดับชาติ เพื่อให้คนต่างจังหวัดและในจังหวัดเข้ามาประชุมสัมมนา ซึ่งจะสร้างรายได้เข้า จ.สตูลอีกทางหนึ่ง
ส่วนการเชื่อมความสัมพันธ์การท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้านนั้น ต้องดึงนักท่องเที่ยวจากประเทศ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และ บรูไน ให้เข้ามาเที่ยว จ.สตูลมากกว่าที่เป็นมา เพราะ จ.สตูลมีความพร้อมรับนักท่องเที่ยวจากประเทศเหล่านั้น

อีกทั้งคนสตูลมีประเพณีวัฒนธรรมใกล้เคียงกับ 3 ประเทศดังกล่าว การดึงนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้านนั้นต้องใช้ ททท. หรือ ภาคประชาชน ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ให้ช่วยกันรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยว จ.สตูลมากขึ้น ตนอยากให้รัฐบาลไทย-มาเลเซีย มีการผ่อนปรนอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวทั้ง 2 ประเทศ
โดยไม่ต้องมีหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต แต่มีเอกสารอย่างอื่นแทนเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและมาเลเซีย เรื่องนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องไปดูแลต่อไป

ทั้งหมดนี้คือเสียงสะท้อนจากผู้นำในพื้นที่ อันที่จริง จ.สตูล นั้นได้ชื่อว่ามีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลติดอันดับหนึ่งของประเทศ แต่การเดินทางไปท่องเที่ยวนั้นดูจะไม่ง่าย นักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางไปลงเครื่องบินที่สนามบินหาดใหญ่ จ.สงขลา หรือไม่ก็สนามบิน จ.ตรัง แล้วนั่งรถยนต์ต่อไปยัง จ.สตูล กว่าจะถึงต้องใช้เวลานานมาก
ดังนั้น ในอนาคตหาก จ.สตูล มีสนามบิน จะทำให้การเดินทางจะสะดวกสบายมากขึ้นเพราะจังหวัดสตูลเป็นอีกหนึ่ง “ไข่มุกอันดามัน” พร้อมจะต้อนรับนักท่องเที่ยว.
สุรศักดิ์ สลีมีน