“ทวดโต๊ะแหลม” เข้าทรงสาวใหญ่เมืองตรัง นำไปชี้จุดพบวัตถุโบราณฝังอยู่ใต้ดิน อ้าง อายุกว่า 309 ปี สั่งให้รอเดือน 9 จะนำไปชี้จุดที่มีทองคำอยู่ใต้ดิน ขณะฝ่ายปกครองเร่งปิดกั้นพื้นที่รอเข้าตรวจสอบ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 7 เม.ย.62 ผู้สื่อข่าว จ.ตรัง รายงานว่า ที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ท่าข้าม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 4 บ้านทุ่งรวงทอง ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง กว่า 60 ชีวิต ได้นำวัตถุโบราณ ซึ่งเป็นภาชนะ อาวุธ และของใช้ต่างๆ จำนวนหลายชิ้น มาเก็บรักษาไว้ชั่วคราว หลังจากที่มีหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ได้ถูก ทวดโต๊ะแหลม มาเข้าทรงภายในร่าง พร้อมกับนำไปชี้จุดให้ชาวบ้านขุดบริเวณริมชายหาดหัวแหลมหยงสตาร์ ห่างจากศาลทวดโต๊ะแหลมประมาณ 50 เมตร ว่า มีวัตถุโบราณฝังอยู่ใต้ก้อนหินที่มีกรวดทรายทับถมอยู่ ก่อนจะทำการขุดและพบวัตถุโบราณดังกล่าวจริง ซึ่งอยู่ลึกลงไปเพียงแค่เล็กน้อย ซึ่งต่างก็สร้างความตกตะลึงใจให้กับชาวบ้านที่พบเห็นเป็นอย่างมาก

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าวัตถุที่ทำการค้นพบ มีภาชนะหม้อทำจากทองเหลือง มีฝาปิด จำนวน 1 ใบ กระทะทองเหลืองขนาดใหญ่ 1 ใบ ไปป์สำหรับสูบบุหรี่ 2 อัน มีดกริชพร้อมปลอก 1 เล่ม มีดทองเหลืองพร้อมปลอก 1 เล่ม เหล็กทองเหลืองลักษณะคล้ายขวาน 1 เล่ม และก้อนประหลาดอีก 1 ก้อน ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า เพชร 7 สี ซึ่งในขณะทำการขุดพบวัตถุทั้งหมดถูกกระทะทองเหลืองขนาดใหญ่ปิดทับอยู่ โดยสภาพทั่วไปถือว่าค่อนข้างจะสมบูรณ์เป็นอย่างมาก

...

นายประหยัด หยงสตาร์ อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 กล่าวว่า หลังจากที่รับแจ้งจากลูกบ้าน ก็ได้รายงานไปยังนายอำเภอ ปลัดอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบแล้ว ซึ่งในขณะนี้ได้นำเชือกไปปิดกั้นพื้นที่ห้ามชาวบ้านและผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปโดยเด็ดขาด ก่อนหน่วยงานจะเข้ามาตรวจสอบ ขณะเดียวกันตนเองได้สอบถามร่างทรงถึงอายุของวัตถุดังกล่าว โดยร่างทรงอ้างว่ามีอายุ 309 ปี และสั่งว่าให้รอถึงเดือน 9 จะมาเข้าทรงอีกครั้ง และจะนำไปชี้จุดที่มีทองคำฝังอยู่ใต้หิน บริเวณใกล้กัน ซึ่งหลังจากกระแสข่าวตรงนี้สะพัดออกไปตนเองหวั่นเกรงจะเกิดความวุ่นวายหากชาวบ้านเข้าไปขุดค้นหาเพิ่มเติม จึงจำเป็นที่จะต้องปิดกั้นพื้นที่ไว้ก่อน ซึ่งยอมรับว่าแหลมหยงสตาร์มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน

สำหรับทวดโต๊ะแหลม จากประวัติในอดีตที่มีการบันทึกเล่าไว้ว่า เป็นพ่อค้าอิสลามที่มาจากประเทศอินโดนีเซีย เพี่อนำสินค้ามาขายในประเทศไทย อยู่ตลอดหลายปีเป็นระยะเวลานาน ระหว่างที่มาประเทศไทยจะมาค้างแรมที่หัวแหลมหยงสตาร์เป็นประจำ หลังจากนั้นได้เสียชีวิตลงที่หัวแหลมหยงสตาร์ ก่อนญาติจะนำศพไปประเทศอินโดนีเซีย ต่อมาได้เกิดพายุอย่างรุนแรง เรือประมงและเรือสินค้าได้อับปางกลางทะเลจำนวนมาก ซึ่งหลากหลายคนได้ภาวนาและบนบานถึงทวดโต๊ะแหลม ขอให้ช่วยเหลือจนทำให้เหตุการณ์พายุลดลงทันทีและทุกคนปลอดภัย จนมีการร่ำลือว่าที่ชาวประมงรอดชีวิตมาได้เพราะบารมีทวดโต๊ะแหลม ซึ่งในปัจจุบันชาวเรือหากเกิดเหตุการณ์พายุหรือเหตุการณ์ไม่ปลอดภัยในทะเล ก็ยังคงภาวนาถึงตลอดมา ต่อมามีการมาทำศาลรูปปั้นไว้ที่ริมหาดหัวแหลมหยงสตาร์ จนมีชาวบ้านและผู้คนเข้ามาขอพรให้ช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ

...