เหตุระทึกกลางสี่แยกหอนาฬิกาตรัง เสียงตูมดังสนั่น 2 หนุ่ม ซิ่งปิกอัพกลางดึก ก่อนจะแซงรถยนต์ เกิดเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า-เสาไฟส่องสว่าง ขาดสะบั้น 2 ต้น อาการบาดเจ็บทั้ง 2 ราย ส่งผลทำให้ไฟฟ้าดับวงกว้างทั่วเมือง
เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 23 มี.ค.62 ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ได้รับแจ้งเหตุ มีรถยนต์กระบะขับพุ่งชนเสาไฟฟ้า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย บนถนนวิเศษกุล บริเวณสี่แยกหอนาฬิกา หน้าบ้านพักผู้พิพากษาหัวหน้าศาล จ.ตรัง ต.ทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้ตำรวจสายตรวจชุดอินทรีย์ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง และหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลตรังรวมแพทย์ รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูเหตุการณ์อยู่ พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ สีขาว ตอนเดียว ทะเบียน บบ 3743 ตรัง ตัวกระบะของรถติดหลังคาเหล็กสำหรับบรรทุกของ ด้านข้างมีป้ายติดว่า ลำภูราเกษตรภัณฑ์ จำหน่ายอุปกรณ์การเกษตร ชนติดอยู่กับเสาไฟฟ้า สภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน เสาไฟฟ้าขาดสะบั้นจำนวน 2 ต้น ทำให้สายไฟฟ้าห้อยระโยงระยางเกือบถึงพื้นดิน เสาไฟฟ้าส่องสว่างได้รับความเสียหายอีก 1 ต้น
...
เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดกระแสไฟฟ้ารั่ว ก่อนจะนำร่างผู้บาดเจ็บ เป็นชายจำนวน 2 ราย อายุประมาณ 25-35 ปี ออกมาจากตัวรถก่อนทำการช่วยเหลือ ผู้บาดเจ็บ 1 ราย มีรูปร่างอ้วนท้วม อาการบาดเจ็บสาหัส มีอาการซึม ส่วนอีกร่างได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ รู้สึกตัวดี และพบว่ามีกลิ่นสุราคละคลุ้งอยู่ทั่วร่างผู้บาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำร่างส่งต่อไปยังโรงพยาบาลเพื่อช่วยเหลือชีวิตอย่างเร่งด่วน
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า รถคันดังกล่าวขับมาจากทางตรง ด้วยความเร็วสูง ระหว่างที่อยู่ตรงแยกได้เร่งเครื่องยนต์แซงทางด้านซ้ายของรถยนต์อีกคันขึ้นมา ก่อนที่รถจะเสียหลังพุ่งชนเสาไฟฟ้าต้นที่ 1 จนขาดสะบั้น และยังพุ่งมาชนเสาไฟส่องสว่างจนได้รับความเสียหาย กระทั้งมาพุ่งชนติดอยู่กับเสาไฟฟ้าต้นที่ 2 จนขาดสะบั้นจนมีผู้บาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุ ได้เกิดไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างไปทั่วทั้งบริเวณ เนื่องจากสายไฟฟ้าขาดได้รับความเสียหาย ทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดตรัง ได้ลงมาตรวจสอบก่อนจะเร่งซ่อมแซมเพื่อให้ชาวบ้านจะได้กลับมาใช้ได้อย่างเหมือนเดิม อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป รวมทั้งจะต้องมีการชดเชยค่าเสียหายเนื่องจากเสาไฟฟ้าและเสาไฟส่งสว่างซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการได้รับความเสียหาย.