“ป๋านนท์” พ้อหลังยกเลิกหาลูกเขย ยังมีคนโทรศัพท์มาสมัครเป็นลูกเขย และเป็นเมียน้อยอีกนับร้อย ขณะที่ทางโซเชียลมีคนคอมเมนต์ด่าทอเพียบ ยืนยันตั้งใจหาลูกเขยจริง และตั้งใจจะให้เงิน 10 ล้านบาทเป็นทุน เริ่มชีวิตคู่ หากเรื่องที่เกิดขึ้นเข้าข่ายผิดกฎหมายก็พร้อมรับผิด ด้านโฆษก บก.ปอท.เตือนสติคนที่จะโพสต์อะไร ถ้าโพสต์เรื่องไม่จริง หรือเจตนาบิดเบือน ทำให้ประชาชนเสียหายต้องถูกดำเนินคดี จะอ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่ได้
แม้นายอานนท์ รถทอง หรือป๋านนท์ อายุ 59 ปี เสี่ยเจ้าของล้งส่งออกทุเรียน “ป๋านนท์&ป้าอร” ในตลาดอวยชัย 3 ถนนเอเชีย 41 หมู่ 4 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ประกาศยกเลิกรับสมัครลูกเขย รวมทั้งยกเลิกการคัดตัวว่าที่ลูกเขยที่ จ.จันทบุรี ในวันที่ 1 เม.ย.ที่จะถึง หลังสร้างความฮือฮาให้กับ บรรดาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ ประกาศผ่านเฟซบุ๊กหาลูกเขยให้ น.ส.กาญจน์สิตา รถทอง ลูกสาววัย 26 ปี พร้อมแถมเงินสดให้ 10 ล้านบาท บ้านและรถยนต์รวมทั้งล้งทุเรียนเป็นทุนตั้งตัว จนมีหนุ่มๆแห่สมัครเป็นลูกเขยและมีหญิงเสนอตัวเป็นเมียน้อยของป๋านนท์ในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมานับแสนคนจนกลายเป็นประเด็น “ทอล์กออฟเดอะทาวน์” แต่การประกาศยุติหาเขยขวัญยังไม่ทำให้ทุกอย่างจบลงอย่างที่หวัง ยังมีคนโทรศัพท์มาสมัครต่อเนื่อง แถมยังโดนคนโพสต์ด่าทางโซเชียลนับไม่ถ้วน
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 มี.ค. นายอานนท์ รถทอง หรือป๋านนท์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ประกาศยกเลิกงานคัดเลือกลูกเขยตนเองรู้สึกสบายใจโล่งอกขึ้น แต่ก็ยังมีคนโทรศัพท์มาสมัครเป็นลูกเขย และมีผู้หญิงมาสมัครเป็นเมียน้อยของตนอีกนับร้อยสาย ตนก็ย้ำว่ายกเลิกงานแล้วและหากมีใครติดต่อมาเรื่องนี้ก็จะตัดสายทิ้งทันที ส่วนในสื่อโซเชียลก็ยังมีคนคอมเมนต์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง มีบ้างที่มาสมัครเป็นลูกเขย แต่ส่วนใหญ่เกือบ 90 เปอร์เซ็นต์โทรศัพท์มาด่าทอต่อว่า หาว่าอยากดังบ้าง สร้างกระแสบ้าง ตนยอมโดนด่าวันนี้ดีกว่าเกิดปัญหาความวุ่นวายหรือความสูญเสียในวันข้างหน้ารวมทั้งปัญหาด้านอื่นที่อาจจะตามมา
...
นายอานนท์กล่าวต่อว่า ตนมีความตั้งใจจริงที่จะหาลูกเขยที่ดีให้กับลูกสาว จะมอบเงิน 10 ล้านบาทเป็นทุนเริ่มชีวิตคู่ ไม่ได้โกหกเพื่อโปรโมตธุรกิจล้งทุเรียน หรืออยากดัง ตอนแรกตั้งใจโพสต์ลงในเฟซบุ๊กที่มีสมาชิกอยู่ในกลุ่มคนทำธุรกิจทุเรียน และเซียนพระเท่านั้น มีพรรคพวกทาบทามจะส่งลูกชายมาเป็นลูกเขยราว 10-20 คน แต่พอเป็นข่าวดัง คนมาสมัครนับแสนคน จึงมาปรึกษากับครอบครัวตกลงยกเลิกเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจตามมา ส่วนกรณีที่มีทนายความดังออกมาระบุว่า การยกเลิกคัดเลือกลูกเขยอาจจะเข้าข่ายผิดนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และหลอกลวงประชาชนนั้น ถ้าผิดก็ต้องยอมรับผิด แต่ในความรู้สึกของตนเองไม่ได้ทำผิดกฎหมายอะไร เพราะไม่ได้คิดหลอกลวงประชาชนแต่อย่างใด
ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.3 ในฐานะโฆษก บก. ปอท. กล่าวถึงการประกาศหาลูกเขยของเสี่ยล้งทุเรียนว่า ส่วนตัวแล้วมองเรื่องนี้เป็นสีสันบนโลกโซเชียล การประกาศหาคู่พร้อมธุรกิจทุเรียนและเงินทุนอีก 10 ล้านบาท ทำให้ชายไทยบางกลุ่มเกิดความหวังจะพบรักกับหญิงสาว มีเงินมีทอง มีพ่อตาอุปถัมภ์ อยากฝากเตือนคนที่คิดจะโพสต์ในลักษณะนี้ว่า ถ้า โพสต์เป็นเท็จหรือมีเจตนาบิดเบือน นึกสนุกคึกคะนองทำให้ประชาชนเกิดความเสียหายจะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์แน่นอน จะบอกว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่ได้ อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ