“เสี่ยอานนท์” เจ้าของล้งทุเรียน ฝากถึง “ว่าที่ลูกเขย” ถ้าสนใจขอให้ไปรวมพลพร้อมกันวันที่ 1 เม.ย.เพื่อคัดเลือกเผยนอกจากขอเป็นลูกเขยแล้ว ยังมีที่ขอยืมเงิน และขอเป็นเมียน้อยด้วย ฝ่ายลูกสาวบอก "ไม่อยากให้หวังมาก"

กรณี นายอานนท์ รถทอง อายุ 59 ปี เจ้าของล้งทุเรียน “ป๋านนท์@ป้าอร” ตั้งอยู่ในตลาดอวยชัย 3 ถนนเอเชีย 41 หมู่ 4 ตำบลวังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ประกาศรับสมัครลูกเขยทางเฟซบุ๊กแถมเงินสดให้ 10 ล้านบาท บ้าน และรถยนต์อีกนับ 10 คัน หวังมาช่วยลูกสาวสืบทอดธุรกิจ โดยประกาศตั้งแต่คืนวันที่ 2 มีนาคม 62 จนกลายเป็นกระแสฮอตในสื่อออนไลน์ มีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวจนโด่งดังในชั่วข้ามคืน

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 5 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับนายอานนท์ รถทอง นางสาวกาญจน์สิตา รถทอง อายุ 26 ปี ลูกสาว ที่ล้งรีบซื้อทุเรียน หลังจากเดินทางกลับจากกรุงเทพฯ ที่ไปออกรายการโทรทัศน์ พบว่าร้านเปิดรับซื้อทุเรียนตามปกติ โดยมีนายอานนท์นั่งอยู่ภายในร้านและสาละวนอยู่กับการรับโทรศัพท์ที่มีชายหนุ่มติดต่อมาขอสมัครเป็นลูกเขยอยู่ตลอดเวลา ขณะที่บางรายเป็นผู้หญิงโทรมาขอกู้ยืมเงินและขอเป็นเมียน้อย อ้างความจำเป็นความเดือดร้อนต่างๆ นานา นายอานนท์จะบอกว่าผิดวัตถุประสงค์แล้วตัดสายทิ้งไป ขณะที่มีหลายหลายเดินทางมาสมัครด้วยตนเอง

นายอานนท์ กล่าวว่า จริงๆ เรื่องที่เกิดขึ้นตนโพสต์ลงในเฟซบุ๊กเพื่อต้องการให้เห็นกันเฉพาะในกลุ่มผู้ค้า ผู้ส่งออกทุเรียนในเฟซบุ๊กตนเท่านั้น เผื่อมีผู้สนใจต้องการจะมาเป็นลูกเขยตน เพราะต้องการให้ลูกสาวมีสามีที่ดีตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ไม่คิดว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตขึ้นมา จนต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระแสที่เกิดขึ้น 

เสี่ยอานนท์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้แทบไม่ได้กินไม่ได้นอน หลังเป็นข่าวดัง ทุกๆ นาทีจะมีโทรศัพท์โทรเข้ามาไม่ต่ำกว่า 10 สาย เพื่อสมัครเป็นลูกเขย ขณะนี้มีมากนับพันรายแล้ว นอกจากนี้ยังมีสมัครมาขอเป็นเมียน้อยอีกมากกว่า 200 ราย และขอกู้เงินอีกจำนวนมาก ยังไม่รวมที่สมัครมาทางสื่อออนไลน์อีกนับหมื่นนับแสนคน ตอนนี้กระทบธุรกิจรับซื้อทุเรียนอย่างมาก เนื่องจากใช้โทรศัพท์เครื่องเดียวกันทำให้สายไม่ว่าง ลูกค้าส่วนใหญ่จะไปติดต่อทางคอมเมนต์ในเฟซบุ๊กและไลน์

...

"ว่าที่ลูกเขยที่โทรมาสมัครตอนนี้นอกจากชายไทยแล้วยังมีจากต่างประเทศด้วย เช่นประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย สวีเดน จีน ยังมีนักข่าว นักธุรกิจจากประเทศจีน ติดต่อจะเหมาลำเครื่องบินมาขอดูงานและทำข่าวด้วย" 

นายอานนท์ กล่าวอีกว่า หลังเป็นข่าววันนี้วันแรกมีคนเดินทางมาสมัครที่ล้งทุเรียนแล้วมากว่า 10 คน ทั้งคนในพื้นที่ จ.ชุมพร และต่างจังหวัด ตนก็บอกไปแล้วและขอประกาศผ่านสื่อด้วยว่าผู้จะสมัครเป็นลูกเขยตนไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่ล้งทุเรียนเพราะจะทำให้เสียเวลา ขอให้วันที่ 1 เมษายน 2562 ให้ทุกคนไปรวมพลกันที่ล้งรับซื้อทุเรียนของตนที่ตลาดเนินสูง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เพื่อทดสอบการทำงาน โดยจะใช้เวลา 3 เดือน จนกว่าจะได้ลูกเขยตามเงื่อนไขที่ตนประกาศไว้ ส่วนค่าใช้จ่ายที่อยู่ที่กินและอื่นๆ ว่าที่ผู้สมัครลูกเขยต้องจัดการเอง เพราะตนยกลูกสาวและให้ทุนในการทำธุรกิจแล้ว

ด้าน นางสาวกาญจน์สิตา รถทอง กล่าวว่า ไม่อยากให้สื่อมาสนใจเรื่องที่พ่อตนประกาศรับสมัครลูกเขย เพราะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตหรือเรื่องสำคัญอะไร อยากให้นักข่าวไปสนใจความเดือดร้อนของชาวบ้านและใช้พื้นที่สื่อเกี่ยวกับปัญหาสาธารณะมากกว่า ซึ่งความจริงแล้วพ่อตนก็แค่โพสต์ในกลุ่มสนุกๆ เมื่อเป็นกระแสก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามนั้น ตนจะไปเบรกแบบกะทันหันทีเดียวเลยก็ไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้คิดอะไรมาก ถ้าเป็นความต้องการของพ่อเพราะพ่อหวังดีกับลูกอยู่แล้ว 

ผู้สื่อข่าวถามว่าวันที่ 1 เมษายนนี้ ที่พ่อประกาศเป็นวันคัดเลือกลูกเขยหากได้แล้วเราจะยอมรับได้ไหม นางสาวกาญจน์สิตา กล่าวว่า ก็ต้องขึ้นอยู่กับตนด้วย เพียงแต่ว่าตนไม่อยากให้ใครมาสมัครเป็นลูกเขยที่ล้งของพ่อ หรือไปรวมตัวกันตามสถานที่พ่อได้บอกไว้เพราะจะทำให้เสียเวลา หากไม่เป็นไปตามที่หวังอาจจะทำให้เสียใจขึ้นได้
ถ้าสนใจจะมาเป็นแฟนตนจริงๆ ก็สามารถติดต่อกับทางเฟซบุ๊ก หรือทางสื่อออนไลน์ก่อนจะดีกว่า

"เกรงใจนะ หากมากันจำนวนมาก" นางสาวกาญจน์สิตา กล่าว.