ตร.เจาะไอร้องรวบ 2 ผู้ต้องหาค้ายารายใหญ่ ยึดปืนไรเฟิลจู่โจมพร้อมยาบ้า

ตำรวจ สภ.เจาะไอร้อง สนธิกำลังทหารพราน ตรวจค้นบ้านพักที่แหล่งค้ายาเสพติดรายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 2 ราย ยึดยาเสพติดได้จำนวนหนึ่ง พร้อมอาวุธปืน ตั้ง 3 ข้อหา พร้อมสอบความเชื่อมโยงความไม่สงบ...

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 ก.พ. 62 พ.ต.อ.ลุกมาน บาเกาะ ผกก.สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สันติ ลามะ รอง ผกก.สส. สภ.เจาะไอร้อง พ.ต.ท.สุริยวงศ์ รัตนาภรณ์พิพัฒน์ สว.สส.สภ.เจาะไอร้อง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เจาะไอร้อง และเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 4816 รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันเข้าตรวจค้นบ้านพักไม่มีเลขที่ ม.9 ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง หลังสืบทราบว่าเป็นแหล่งค้ายาเสพติดรายใหญ่ เมื่อถึงเป้าหมายเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น พบ นายซอลาฮูดีน อาแว อายุ 32 ปี ชาวบ้าน ม.3 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส และนายอับดุลปาต๊ะ ยีเจ๊ะสอ อายุ 25 ปี ชาวบ้าน ม.9 ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว

จากการตรวจค้นพบของกลางหลายรายการ ประกอบด้วย 1. ยาบ้าจำนวน 91 เม็ด 2. ยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 0.334 กรัม 3. อาวุธปืนไรเฟิลจู่โจม แบบโคลท์ AR-15 คอมมานโด จำนวน 1 กระบอก 4. อาวุธปืนพก ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก 5. กระสุนปืนขนาด 5.56 จำนวน 70 นัด 6. กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 21 นัด 7. ซองบรรจุกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 2 อัน 8. ซองบรรจุกระสุนขนาด 5.56 จำนวน 3 อัน 9. ซองพกในชนิดผ้าสีดำจำนวน 1 อัน และ 10. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพว่า ของกลางที่ยึดได้ดังกล่าวเป็นของตน ส่วนอาวุธปืนเป็นของเพื่อนที่ได้นำมาฝากไว้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงได้นำอาวุธปืนทั้ง 2 กระบอก รวมทั้งกระสุนปืน ส่งมอบให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ตรวจสอบคราบลายนิ้วมือแฝง รวมทั้งดีเอ็นเอ ว่าอาวุธปืนทั้ง 2 กระบอก เคยใช้นำไปก่อเหตุที่ใดบ้าง พร้อมทั้งเตรียมส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ทหารสอบสวนขยายผลผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่หรือไม่อย่างไร

ทั้งนี้ ตำรวจได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีแก่บุคคลทั้ง 2 ใน 3 ข้อหา คือ 1. ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า, ยาไอซ์ ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย 2. มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 3. เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน โดยผิดกฎหมาย.