ลูกชาย ขับปิกอัพพาแม่ เจ้าของร้านขายผักสดรายใหญ่ อ.กระบุรี มาซื้อของที่ชุมพร ขากลับขับฝ่าหมอก ผ่านถนนกำลังก่อสร้าง แหกโค้งรถหมุน ร่างกระเด็นตก แม่ตาย ลูกชายสาหัส คาดไม่รัดเข็มขัดฯ
เวลา 05.00 น.วันที่ 6 ก.พ.62 ร.ต.อ.สวัสดิ์ คงแก้ว รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุมีคนบาดเจ็บและเสียชีวิตที่ถนนเพชรเกษม บ้านจปร.หมู่ 7 ตำบลวังใหม่ อ.เมืองชุมพร จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ และหน่วยกู้ภัยสายชลมูลนิธิชุมพร

ที่เกิดเหตุเป็นถนนทางโค้งอันตรายช่องทางขาล่องอยู่เขตรอยต่อกับ อ.กระบุรี จ.ระนอง ถนนกำลังอยู่ระหว่างขยายเป็นสี่ช่องจราจร บริเวณเกาะกลางถนนกั้นเป็นขอบปูนซีเมนต์กว้าง 1 เมตร มีการถมดินเป็นเนินสูง 1 เมตร เป็นแนวยาว การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์สภาพถนนมืดทึบไม่มีแสงไฟส่องสว่าง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบริมถนนห่างจากบ้านเลขที่ 9/2 หมู่ 7 ตำบลวังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร ประมาณ 5 เมตร พบรถยนต์กระบะมิตซูบิชิไทรทัน สีบรอนซ์ตอนเดียวแบบยกสูง ทะเบียน บย 3097 ชุมพร สภาพพังเสียหายกระจกประตูด้านขวาและกระจกหลังแตกละเอียดจนหลุดหายไปทั้งแผ่น
...
ห่างออกไปบนถนนช่องทางเลนซ้ายพบศพทราบชื่อ นางชลี ธนบัตร อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/1 หมู่ 1 ตำบลมะมุ อ.กระบุรี จ.ระนอง สภาพศพคอหักกะโหลกยุบมีแผลฉกรรจ์ตามหลายจุด ในตัวมีทรัพย์สินสร้อยคอทองคำ แหวนทองคำ สร้อยข้อมือ และในรถยนต์มีกระเป่าเงินสดอีกจำนวนหนึ่งรวมทรัพย์สินนับแสนบาท เจ้าหน้าที่จึงถ่ายภาพและเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อคืนให้ญาติ
ยังมีผู้บาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย กระเด็นออกมานอกตัวรถอยู่ใกล้กับจุดพบศพ หน่วยกู้ชีพรถพยาบาลฉุกเฉินนำส่งโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ไปก่อนแล้ว ทราบชื่อคือ นายอนุชาติ ธนบัตร อายุ 25 ปี กะโหลกร้าวเลือดออกทางปากจมูกอาการหนักขั้นโคม่าเป็นตายเท่ากัน เป็นคนขับรถคันเกิดเหตุและเป็นลูกชายของนางชุลีผู้ตาย บริเวณจุดเกิดเหตุตั้งแต่ปลายโค้งอันตรายมาจนถึงจุดพบศพเป็นระยะทางประมาณ 100 เมตร มีพืชผักผลไม้เนื้อไก่และสินค้าอุปโภคบริโภคหล่นกระจายเกลื่อน

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุเป็นช่วงที่มีหมอกลงหนาทึบแทบมองไม่เห็นเส้นทาง และถนนกำลังอยู่ระหว่างขยายเป็นสี่เลนใกล้เสร็จสมบูรณ์แต่ยังไม่มีการตีเส้นจราจร เกาะกลางถนนถมเป็นเนินดินสูงยังไม่เสร็จเรียบร้อย สภาพถนนมืดไม่มีไฟส่องสว่าง พบว่ารถคันเกิดเหตุได้เสียหลักหลุดโค้งลงไปข้างทางแล้วหมุนนชนกับกองหน่อพันธุ์มะพร้าวน้ำหอมมากกว่า 300 หน่อพังราบ เสียหายทั้งหมด และกระถางต้นไม้ดอกไม้ประดับแตกเสียหายอีกจำนวนหนึ่ง แล้วรถยังหมุนไปชนกระแทกกับรถยนต์กระบะโตโยต้าไทเกอร์ตอนครึ่งสีน้ำเงิน ทะเบียน บฉ 6765 ชุมพร พังเสียหายอีก 1 คัน ซึ่งเป็นรถยนต์ของนายวิสิทธิ์ พ้นภัย อายุ 78 ปี เจ้าของบ้านที่จอดไว้หน้าบ้านใกล้จุดเกิดเหตุ
จากการสอบสวนทราบว่านางชลีผู้ตายเป็นคนมีฐานะดี และเป็นเจ้าของกิจการร้านจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคพืชผักผลไม้ อาหารสด ทั้งขายปลีกและขายส่งเป็นร้านใหญ่สุดอยู่ในอำเภอกระบุรี จ.ระนอง เขตติดต่อกับ อ.เมืองชุมพร ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณตี 3 นางชลีได้ให้นายอนุชาติขับรถคันดังกล่าวพามาซื้อสินค้าที่ตลาดกลางขายส่งในตัวเมืองชุมพรเพื่อนำไปขายที่ร้าน ขากลับได้บรรทุกสินค้ามาเต็มกระบะหลัง ระหว่างทางซึ่งเป็นป่าเขามีหมอกลงหนาทึบแทบมองไม่เห็นเส้นทาง ประกอบกับถนนกำลังอยู่ระหว่างขยายช่องทางเป็นสี่เลน ยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ ยังไม่มีการตีเส้นจราจรขอบถนนและเส้นขาวแบ่งช่องทาง ไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง ถนนมืดสนิท
เบื้องต้น สันนิษฐานว่าคนขับอาจจะขับรถมาด้วยความเร็วจนรถเสียหลักหลุดโค้ง หรืออาจจะหลับในจนทำให้เกิดอุบัติเหตุรถแหกโค้ง ที่สำคัญนายอนุชาติคนขับ กับนางชลีผู้ตาย 2 แม่ลูกไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย เมื่อรถได้เสียหลักหมุนหลายรอบ จึงถูกแรงเหวี่ยงร่างไปกระแทกกระจกข้างประตูจนแตกละเอียด ทำให้ทั้ง 2 คนกระเด็นออกจากตัวรถตกลงบนถนนจนเสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว