ชาวบ้านเมืองคอนนับร้อยรวมตัวร้องสื่อ หลังพบนายทุนบุกรุกไปออกเอกสารสิทธิทับที่ทำกินที่อยู่มานานตกทอดมาถึงรุ่นลูก วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาแก้ปัญหา เกรงจะไม่มีที่ทำกินและได้รับอันตราย
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 ม.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่บ้านนายสนธยา รักษายศ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/3 หมู่ 1 บ้านบางปรน ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช หลังได้รับแจ้งว่า มีชาวบ้านนับร้อยรวมตัวออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาแก้ในที่ดินทำกินที่ถูกกลุ่มนายทุนจากพื้นที่ต่างๆ นำหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก) จำนวนหลายแปลงที่ออกโดยไม่ชอบธรรม เนื่องจากไปทับซ้อนในที่ดินทำกินของชาวบ้านที่ได้รับมรดกมาจากรุ่นปู่ย่า อยู่มานานร่วม 100 ปี และที่ดินที่ได้รับมรดกมายังคงเป็นที่ดิน ภทบ.5 ไม่เคยไปออกเป็น น.ส.3 ก แต่อย่างใด

นายสนธยา รักษายศ กล่าวว่า ตนได้รับมรดกมาจากนายวร รักษายศ จำนวน 20 ไร่ เมื่อ 30 กว่าปีมาแล้ว โดยที่ดินที่ได้รับมอบนั้นเป็นที่ดิน ภทบ.5 ต่อมาเมื่อกลางเดือนกรกฎาคม 61 มีกลุ่มผู้ซื้อ นายหน้า และผู้ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของเอกสารสิทธิในที่ดิน มากัน 2 คันรถกระบะ มาทำการซื้อขายที่ดินและถือสำเนาเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก มาชี้ที่ดินที่ไปทับที่ของนายสุทีพ พงศ์ศรีเจริญ นายศลทยา รักษายศ นายสมโภช ไกรนรา นางอรัญญา อิทธิฤทธิ์ และนายสมศักดิ์ คำแหง มีการโต้เถียงกันอยู่นาน สุดท้ายกลุ่มนายทุนพากันกลับไป
...

นายสุทีพ พงศ์ศรีเจริญ ตัวแทนหนึ่งในผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการที่นายทุนไปออกเอกสารสิทธิทับที่ทำกิน กล่าวว่า ยังมีชาวบ้านหมู่ 1 บ้านบางปรน ต.กรุงหยัน อีกนับร้อยครัวเรือนที่ได้รับความเดือดร้อน จากการที่นายทุนไปออกเอกสารสิทธิทับที่ทำกินของชาวบ้าน เนื้อที่กว่า 1,497 ไร่ และกลุ่มนายทุนยังคงวนเวียนเข้ามาดูที่ดินที่ไม่ใช่ของพวกเขา สร้างความเดือดร้อนให้กับเจ้าของที่ดินตัวจริง ที่ต้องมาคอยระวังกลัวจะถูกนายทุนเข้ามาบุกรุกเอาไปครอบครอง ถึงกับต้องรวมตัวกันขึ้นป้ายขนาดใหญ่ว่า ที่ดินแปลงนี้มีเจ้าของแล้ว และมีหนังสือเอกสารสิทธิในที่ดินทำกิน ภทบ.5 ทุกคน
ต่อมา เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 61 ชาวบ้านรวมตัวนำหลักฐานการถือครองที่ดิน พากันไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ทุ่งใหญ่ หลังแจ้งความแล้วก็พากันไปร้องศูนย์ดำรงธรรม อ.ทุ่งใหญ่ ไปร้องศูนย์คุ้มครองสิทธิ์ อ.ทุ่งสง และพากันไปร้อง คสช.ที่กรุงเทพมหานคร เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นและหมักหมมมานานนับสิบปี

ขณะที่ นางอรัญญา อิทธิฤทธิ์ ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน และมารวมตัวในครั้งนี้ กล่าวว่า ก่อนที่จะมารวมตัวกัน เคยไปเรียกร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาเร่งแก้ไข เนื่องจากยังคงมีกลุ่มนายทุนจากหลายพื้นที่ มีทั้งที่ จ.นครศรีธรรมราช จ.ตรัง จ.พัทลุง จ.สงขลา หมุนเวียนพากันมาชี้ที่ดินซึ่งเป็นของชาวบ้านในพื้นที่ที่ถือครองมานาน ทำให้ชาวบ้านหวาดผวา เกรงจะได้รับอันตราย เพราะแต่ละวันมีคนแปลกหน้าขับรถติดฟิล์มดำเข้ามาหมู่บ้าน จึงวอนให้ผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่เข้ามาพูดคุยกับชาวบ้านและเร่งแก้ปัญหาให้ด้วย.