โจรเมืองลุงโหดซัด 9 มม.ยิงแสกหน้าโคโหนดรูปงาม เจ้าของนำมาเลี้ยงในคอกชั่วคราวในสวนยางพารา ก่อนที่จะตัดขาไป 1 ขา พร้อมผ่าท้องควักเครื่องใน หลบหนีลอยนวล
เวลา 09.00 น. วันที่ 9 ม.ค. พ.ต.ท.นิติคม ขุนรอง สว.(สอบสวน) สภ.ศรีนครินทร์ พ.ต.อ.ธัญญา สังข์ศิลป์ชัย ผกก.สภ.ศรีนครินทร์ พร้อมนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง และผู้นำท้องถิ่น เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายไม่ทราบชื่อ จำนวน ใช้ของมีคมตัดขาหลังด้านซ้ายของวัวจนขาด และใช้ของมีคมผ่าท้องแล้วตัดเอาเครื่องในไปบางส่วนก่อนที่จะหลบหนีไป เหตุเกิดในสวนยางพารา ท้องที่หมู่ 2 ต.ชุมพล อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง
ในที่เกิดเหตุ สวนยางพาราของ นายคล้อย ขุนทอง อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ที่ 3 ต.แพรกหา อ.ควนขนุน พบโค (วัว) เพศผู้ สีโหนด อายุ 2 ปี นอนตายจมกองเลือดที่แห้งกรังอยู่ห่างจากจุดล่ามโค ที่มีพลาสติกสีดำเป็นที่กันฝนประมาณ 5 เมตร สภาพซากโคเคราะห์ร้าย ซึ่งมีราคาตอนมีชีวิต ประมาณ 17,000 บาท ถูกกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. จ่อยิงในระยะเผาขนที่บริเวณแสกหน้า ระหว่างดวงตาทั้ง 2 ข้าง จำนวน 2 นัด ตายคาที่อย่างน่าอนาถ
ส่วนบริเวณขาหลังด้านซ้ายถูกคนร้ายใช้ของมีคมตัดจนขาด หน้าท้องถูกผ่าท้องแล้วนำเครื่องในไปจำนวนหนึ่งด้วย ใกล้กันตำรวจพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 2 ปลอก จึงเก็บเป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายคล้อย ซึ่งมีบ้านพักในหมู่ 3 ต.แพรกหา อ.ควนขนุน ได้นำโค จำนวน 5 ตัว มาเลี้ยงไว้ในสวนยางพาราของตน ที่หมู่ 2 ต.ชุมพล อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง ห่างจากบ้านพักของตนเองประมาณ 2 กิโลเมตร โดยในตอนกลางคืนนายคล้อย จะนำโคมาล่ามไว้ในสวนยางพารา มีพลาสติกสีดำเป็นอุปกรณ์ในการป้องกันฝนแก่โคทั้ง 5 ตัว ซึ่งการนำโคมาเลี้ยงในสวนยางพารานี้ได้ทำมากว่า 50 ปีแล้ว
...
อย่างไรก็ตาม เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา มีคนเข้ามาติดต่อขอซื้อโคเพศผู้ตัวนี้ โดยเสนอราคาให้เป็นที่น่าพอใจ แต่นายคล้อยไม่ขายให้ เพราะโคมีลักษณะดีตามตำราโคชน และเป็นโคชนลูกผสม ที่พ่อพันธุ์ขวิดเอาชนะคู่ต่อสู้มาหลายครั้งแล้ว จึงตั้งใจที่จะเลี้ยงไว้เพื่อนำไปชนในสนามชนโค
ต่อมา ในตอนเช้าวันนี้ ขณะที่นายคล้อยและบุตรชาย เข้ามาในสวนยางพาราก็พบโคตัวนี้นอนตายจมกองเลือดอยู่ข้างคอกชั่วคราว ในตอนแรกตนเข้าใจว่าอาจมีสัตว์ป่าเข้ามากัดกิน จนเมื่อเข้ามาใกล้ซากโคก็พบว่าโคถูกยิง จึงแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านและแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบ ขณะเดียวกันชาวบ้านที่นำโคมาเลี้ยงไว้ในสวนยางพารา ก็เตรียมพร้อมในการเฝ้าระวังภัยเช่นกัน