ผวจ.นครศรีธรรมราช สั่งทุกจุดเสี่ยงเตรียมอพยพ 100% ทุกอำเภอ พร้อมรับมือพายุปาบึก โดยเฉพาะ 6 อำเภอชายฝั่งทะเล รวมทั้งดูแลภายในครอบครัว เตรียมอาหาร น้ำดื่ม อุปกรณ์ยังชีพให้พร้อม...
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 มกราคม 2562 ที่ห้องประชุมปฏิบัติการ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ประชุมด่วนเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือพายุโซนร้อน “ปาบึก” ที่คาดว่าจะเคลื่อนลงอ่าวไทยในวันนี้ 3 มกราคม 2562 และจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราชในช่วงค่ำของวันที่ 4 มกราคม 2562 โดยจะมีผลกระทบต่อภาคใต้ในช่วงวันที่ 3-5 มกราคม 2562 ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง โดยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามันจะมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 3-5 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชอาจจะได้รับผลกระทบที่รุนแรงจากพายุ “ปาบึก” ทั้ง 23 อำเภอ เพื่อความไม่ประมาทขอให้นายอำเภอทุกอำเภอเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นจากฝนตกหนัก ถึงหนักมาก น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน คลื่นซัดชายฝั่ง และความเสียหายจากแรงลมพายุ เช่น ต้นไม้หักโค่น สิ่งปลูกสร้างต่างๆ โดยเฉพาะ 6 อำเภอที่อยู่ติดชายฝั่งทะเลทุกจุดเสี่ยง ขอให้มีการอพยพประชาชนไปยังศูนย์อพยพ 100%
...
นายจำเริญ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ขอให้พี่น้องประชาชนทุกครัวเรือน ได้เตรียมความพร้อมภายในครอบครัวของตนเอง และดูแลเพื่อนบ้าน ด้วยการเตรียมอาหาร น้ำดื่ม ไฟฉาย และอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อม ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิดกรณีที่ลมกระโชกแรง อยู่ในที่ปลอดภัยของตัวบ้าน หรืออพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทั้งโรงเรียน สถานที่ราชการต่างๆ หรือสถานที่ ศูนย์อพยพที่ทางท้องถิ่นท้องที่ ทางอำเภอได้จัดเตรียมไว้ ส่วนในพื้นที่ในเขตตัวเมือง สามารถอพยพไปพักพิงได้ที่สถานที่ราชการทุกแห่ง หรือสามารถมาพักพิงได้ที่ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยให้ส่วนราชการทุกแห่งเปิดเป็นที่อพยพพี่น้องประชาชนใกล้ที่ไหนไปที่นั่น
และมอบหมายให้หัวหน้าส่วนราชการทุกส่วนเป็นหัวหน้าหน่วยในการดูแลผู้พักพิง โดยให้ประสานงานกับอำเภอในพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนต้องอพยพไปก่อน อย่ารอให้เกิดสถานการณ์เพราะจะอพยพไม่ทัน ทั้งนี้ประชาชนไม่ควรตื่นตระหนก แต่ขอให้มีความตระหนัก และเชื่อฟังตามคำสั่ง หรือคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ให้ติดตามข้อมูลข่าวพยากรณ์อากาศ และประกาศเตือนภัยได้ที่ เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 หรือจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ตลอด 24 ชั่วโมง.