ปฐพีสะเทือนอินโดนีเซีย แต่วิปโยคถึงไทย คลื่นยักษ์ “สึนามิ” ถล่มแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำทางใต้ “ภูเก็ต-พังงา-กระบี่-สตูล-ระนอง” เกลียวคลื่นโถมซัดกวาดชาวบ้าน นักท่องเที่ยวลงทะเลเรียบ หลังน้ำลดพบศพเกลื่อนหาด ยอดตายนับร้อย เจ็บกว่าพัน สูญหายอีกเพียบ
ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ย้อนเรื่องราว 14 ปีผ่าน มหาวิปโยค “สึนามิถล่มไทย” ส่งท้ายปีด้วยความพินาศย่อยยับอย่างคาดไม่ถึง
26 ธันวาคม 2547
07.50 น. คลื่นในทะเลอันดามันขนาดความสูง 7-8 เมตร พัดเข้าหาชายฝั่ง ส่งผลให้พื้นที่บริเวณชายฝั่งใน จ.ภูเก็ต เกิดน้ำท่วมฉับพลัน
07.58 น. ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก แจ้งว่า ได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 8.0 ริกเตอร์ รู้สึกสั่นสะเทือนได้เกือบทุกจังหวัดภาคใต้ รวมถึงอาคารสูงหลายแห่งใน กทม.
แผ่นดินไหวที่อิเหนาสะเทือนถึงไทย
...
แผ่นดินไหวครั้งนี้ ได้ส่งผลให้ทะเลอันดามันมีคลื่นมาก โดยที่ภูเก็ตรู้สึกถึงความสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวนานประมาณ 5-10 นาที นอกจากนี้ ยังทำให้โรงแรมหลายแห่งใน อ.หาดใหญ่ สั่นสะเทือน จนต้องอพยพผู้คนและนักท่องเที่ยวออกจากตัวอาคาร โดยโรงแรมหลายแห่งได้รับผลกระทบทำให้ผนังอาคารร้าว ต้องปิดบริการชั่วคราว เพราะปูนที่ฉาบไว้บริเวณผนังด้านนอกอาคาร กะเทาะหลุดร่วงลงมาที่พื้นถนนด้านล่าง สร้างความแตกตื่นตกใจให้กับผู้สัญจรผ่านไปมา
ขณะเดียวกัน แขกที่พักในโรงแรมจำนวนหนึ่ง ได้พากันเช็กเอาต์ออกจากโรงแรมเพราะเกรงจะไม่ปลอดภัย ส่วนโรงแรมขนาดใหญ่ในย่านนั้นๆ ผู้คนต่างแตกตื่นพากันวิ่งออกมายืนออบนถนนหลายร้อยคน
นอกจากนี้ ทางโรงพยาบาลหลายแห่ง ได้สั่งอพยพเจ้าหน้าที่และผู้ป่วยประมาณ 200 คน ออกจากอาคารที่เป็นตึกสูง 7 ชั้น ท่ามกลางความตื่นตระหนกของผู้ป่วยและญาติที่มาเฝ้า ขณะที่ นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองปากพนัง กล่าวว่า ตึกรังนกนับร้อยตึกมีการสั่นไหวจากแผ่นดินไหว แต่ไม่ได้รับความเสียหาย และไม่มีผู้บาดเจ็บ ประชาชนตกใจกันมากเพราะไม่เคยเกิดปรากฏการณ์อย่างนี้มาก่อน
คนกรุงเผ่นจากตึกสูง
ด้านนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วย ผอ.สำนักโยธาธิการ กทม. และ ผอ.สำนักป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ได้เดินทางยัง รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ ถนนเจริญกรุง เพื่อตรวจดูอาคารสูง 25 ชั้นของ รพ. หลังบนตัวอาคารชั้น 9 ถึงชั้น 25 สั่นคลอนจนรู้สึกได้ชัดเจน ทำให้คนไข้จำนวนกว่า 200 คน ตื่นตระหนก เจ้าหน้าที่ต้องลำเลียงออกมาจากตัวอาคารด้วยความโกลาหล
...
คนอีสานแตกตื่นน้ำกระเพื่อม
โดยเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้คนเกือบทั่วประเทศรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือน รวมถึงที่ จ.ปราจีนบุรี เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชัง กล่าวว่าเกิดแรงกระเพื่อมในแม่น้ำอย่างแรง ทำให้กระชังปลาเคลื่อนเข้า-ออก ไปมา ชาวบ้านไม่เคยเห็นพากันออกมาดู คาดเดากันไปต่างๆ นานา บางคนว่าอาจมีเรือดำน้ำผ่านเข้ามาสำรวจ ส่วนที่ จ.ศรีสะเกษ ที่หนองน้ำในหมู่บ้านปลาซิวน้อย หมู่ 9 ต.หนองใหญ่ อ.เมืองจันทร์ ซึ่งเป็นหนองน้ำเก่าแก่อายุร่วม 300 ปี เกิดคลื่นสูงร่วม 1 เมตร ชาวบ้านกำลังซักผ้า ต่างทิ้งกะละมังวิ่งหนีเข้าหมู่บ้าน
“สึนามิ” ถล่มภูเก็ตกวาดคนลงทะเล
ขณะที่ ภาคใต้ได้เกิดคลื่นยักษ์หรือที่เรียกว่า สึนามิ เคลื่อนตัวจากกลางทะเลขึ้นฝั่งเข้าถล่มตามหาดต่างๆ อย่างที่ไม่มีใครคาดคิดถึง 2 ลูก ตั้งแต่หาดสุรินทร์ หาดกมลา หาดป่าตอง หาดกะตะ หาดกะรน หาดราไวย์ มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมทุกพื้นที่ โดยคลื่นยักษ์แต่ละลูกสูงไม่น้อยกว่า 5-7 เมตร ทำให้น้ำทะเลทะลักขึ้นท่วมถนนริมชายหาดต่างๆ ทั่วทั้งเกาะ พลังน้ำจำนวนมหาศาลกวาดทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้าพากลับลงทะเลเหมือนในภาพยนตร์ฮอลลีวูด สร้างความตื่นตระหนกให้กับชาวบ้านและนักท่องเที่ยว ต่างอุ้มลูกจูงหลานขนข้าวของเครื่องใช้เท่าที่จะคว้าได้วิ่งหนีตายกันอลหม่าน
...
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่นั่งเล่นนอนเล่นตามชายหาด ถูกคลื่นซัดตกทะเลสูญหายไปทันทีหลายสิบคน ขณะที่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่วิ่งอยู่บนถนนริมชายหาด ได้ถูกกระแสน้ำกวาดลงทะเลไปจำนวนมากเช่นกัน เรือประมงที่จอดอยู่ริมชายฝั่งถูกคลื่นซัดจมหลายสิบลำ
หลังสถานการณ์สงบ ประชาชนส่วนใหญ่ต่างงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พากันโทรศัพท์สอบถามไปยังหน่วยงานต่างๆ อย่างวุ่นวาย ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ขณะที่สถานการณ์ยังวุ่นวายอยู่นั้น ปรากฏว่า แก๊งงัดแงะได้ออกอาละวาด เข้างัดบ้านพักริมชายหาดซึ่งเจ้าของบ้านอพยพหนีภัย รวมทั้งทุบกระจกรถยนต์ งัดเครื่องเสียงและทรัพย์สิน พล.ต.ต.สุวิทย์ โอทอง ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่ออกสืบสวนจับกุม และหากจับกุมได้ ห้ามมิให้มีการประกันตัวโดยเด็ดขาด
...
สั่งอพยพคนขึ้นที่สูง
ภายหลังจากที่คลื่นยักษ์เข้ามากวาดทุกอย่างลงทะเลไประลอกแล้ว ทาง จ.ภูเก็ต ได้สั่งการถึงทุกพื้นที่ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือนประชาชนที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ริมชายหาด ขอให้ระวังคลื่นยักษ์ระลอกใหม่ ซึ่งจะเกิดขึ้นในอีก 2 ชั่วโมงข้างหน้า และให้อพยพขึ้นสู่ที่สูงเพื่อความปลอดภัย
ทั้งนี้ ในช่วงเกิดคลื่นยักษ์ถล่ม ปรากฏว่าไฟฟ้าดับทั่วทั้งจังหวัด เครือข่ายระบบโทรศัพท์มือถือทุกบริษัทไม่สามารถใช้การได้ ท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดภูเก็ต ต้องสั่งงดการขึ้น-ลงทุกเที่ยวบิน นอกจากนี้ การจราจรในตัวเมืองภูเก็ตได้กลายเป็นอัมพาต เพราะชาวบ้านส่วนหนึ่งเร่งขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง แต่ชาวบ้านอีกส่วนหนึ่งกลับต้องการเข้าพื้นที่ดูเหตุการณ์
นอกจากเรือประมงที่จอดอยู่บริเวณชายหาด นับพันลำได้รับความเสียหายแล้ว น้ำเค็มยังทะลักเข้าท่วมนาข้าวและไร่แตงโมของชาวบ้านที่อยู่ติดชายฝั่งอีกด้วย
เตือนไม่ทัน คลื่นยักษ์มาเร็ว
นายศุภฤกษ์ ตันศรีรัตนวงศ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาในสมัยนั้น กล่าวในเวลาต่อมาถึงเหตุแผ่นดินไหวที่ตามมาด้วยคลื่นยักษ์ในครั้งนี้ว่า บริเวณรอยเลื่อนที่เป็นจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหว น้ำทะเลจะแทรกตัวเข้าไปแทนที่ ทำให้เกิดคลื่นเคลื่อนตัวเข้าหาฝั่งในลักษณะของคลื่นยักษ์ หรือที่เรียกกันว่า “สึนามิ”
จากที่ได้รับรายงานคลื่นยักษ์นี้ มีความสูงประมาณ 5-10 เมตร หรือประมาณตึก 3 ชั้น ถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีคลื่นยักษ์เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยคลื่นยักษ์นี้จะเดินทางด้วยความเร็วประมาณ 700 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
สำหรับการป้องกันนั้น เนื่องจากแผ่นดินไหวเป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า จึงไม่สามารถประกาศเตือนให้ประชาชนได้ระวังตัวกัน แต่ถ้าเกิดแผ่นดินไหวขึ้นตามประเทศต่างๆ และมีผลต่อประเทศไทย ทางกรมอุตุฯ จะแจ้งเตือนประชาชนอย่างรวดเร็วที่สุด ซึ่งครั้งนี้ทางกรมอุตุฯ ประกาศเตือนเช่นกัน แต่เวลาการเดินทางมาของคลื่นมันเร็วมาก ทำให้บางคนไม่ได้รับข่าวสาร จึงไม่ทันได้ตั้งรับ
พีพีวิบัติคลื่นยักษ์กวาดเรียบ
ขณะที่เกาะพีพี จ.กระบี่ ที่ถูกคลื่นยักษ์ซัดโถมเข้าหาอย่างไม่ทันตั้งตัว ชาวบ้านบนเกาะ เปิดเผยว่า ตอนนี้ชาวบ้านบนเกาะพีพียังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานใดๆ และทุกอย่างพังเสียหาย มีทั้งคนเจ็บและคนตาย คาดว่าจะประมาณหลักร้อย โดยศพที่เห็นจะกระจายอยู่ทั่วไป ทั้งข้างถนน หน้าโรงแรม ตามซอกไม้ ต่างๆ ตอนนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปช่วยเหลือ ทุกคนต้องช่วยเหลือตัวเอง ไฟฟ้าก็ไม่มี อาหารการกินก็ไม่มีเช่นกัน
โดยผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า ช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุ เห็นปรากฏการณ์น้ำทะเลขึ้นๆ ลงๆ เร็วผิดปกติ จากนั้นไม่นานได้มีคลื่นยักษ์สูงกว่าเสาไฟฟ้า พัดเข้าถล่มชายฝั่งกวาดทุกสิ่งทุกอย่าลงทะเลไปจนหมด นอกจากนี้ ก่อนเกิดเหตุ ยังเห็นชาวประมงกลุ่มใหญ่ไม่ต่ำกว่า 30 คน นำเรือหางยาว 15 ลำ ออกไปหาปลาบริเวณชายฝั่งตามปกติ ทันทีที่เกิดคลื่นยักษ์ขึ้น ปรากฏว่าเรือได้ถูกคลื่นซัดล่มจนหมด และยังไม่ทราบชะตากรรม
นายกฯ บินด่วนไปภูเก็ต
เวลา 18.30 น. ในวันเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายพินิจ จารุสมบัติ รองนายกรัฐมนตรี และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางด้วยเครื่องบินจากท่าอากาศยานขอนแก่นไปยัง จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจสถานการณ์
“ติ๊ก กลิ่นสี” แฉหวิดม้วย
“ติ๊ก กลิ่นสี” ดารานักแสดงอารมณ์ดีคนดัง ซึ่งเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนที่อ่าวมะขาม จ.ภูเก็ต และเป็น 1 ในผู้โชคดีที่รอดชีวิต เปิดเผยถึงนาทีเฉียดตายว่า เหตุเกิดประมาณ 09.15 น. ขณะนั้นกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ริมหาดกับเพื่อนๆ โดยก่อนหน้าประมาณ 15 นาที น้ำชายหาดที่อยู่ตรงหน้าตนนั้นหายไปเฉยๆ ก็ไม่ได้เอะใจอะไร และบอกให้เพื่อนถ่ายรูปนี้เก็บไว้ด้วย สักพักน้ำที่หายไปได้ขึ้นมาอีกรอบ แล้วพัดเอาสะพานเรือพัง คนเริ่มตกน้ำ ตนยังคิดว่าเป็นน้ำขึ้น-ลงปกติ ไม่ถึง 2 นาที น้ำก็ขึ้นมาอีก น้องที่นั่งอยู่ด้วยกันบอกว่าไม่ทันแล้ววิ่งหนีเถอะ จึงวิ่งเข้าไปด้านในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ปรากฏว่าน้ำทะลักเข้ามาอย่างรุนแรง พยายามจะวิ่งขึ้นไปชั้น 2 แต่ไม่ทัน ถูกน้ำพัดเข้ากระแทกกับผนังตึก ทีแรกคิดว่าไม่รอดแน่ แต่เผอิญมีช่องด้านหลังตึกจึงพยายามปีนป่ายขึ้นไปบนชั้น 2
จากนั้นย้ายตัวเองจากตึกอพาร์ตเมนต์ไปโรงแรมอีกแห่งหนึ่งที่ไกลออกไป โดยการปีนจากด้านข้างตึกที่ชั้น 3 เพราะมีคนตะโกนมาว่า มีคลื่นเข้ามาอีกแล้ว คิดว่าคงมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เพราะตอนที่มองลงมาจากตึกบนดาดฟ้าเห็นมีคนบาดเจ็บนอนอยู่เยอะ สำหรับคณะของตนที่เดินทางมาด้วยกันนั้น มีคุณต้อย นักแสดงอีกคนในรายการยุทธการบันเทิง ทางไอทีวี ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำส่ง รพ.แล้ว เนื่องจากถูกกระแทกอย่างแรง และสำลักออกมาเป็นเลือด ยังไม่รู้อาการว่าหนักแค่ไหน เพราะทั้งเมืองวุ่นวายไปหมด
ต่อมา สำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกแถลงการณ์มีใจความสำคัญ คือ รัฐบาลขอแสดงความเสียใจต่อญาติพี่น้องของผู้สูญเสียทั้งหลาย และขอให้ความมั่นใจแก่ประชาชนว่าจะแก้สถานการณ์ให้กลับคืนสู่ปกติโดยเร็วที่สุด.