เรื่องบนสังคมที่บิดเบี้ยว หนุ่มพลเมืองดีช่วยสาว 15 ที่ถูกตาพยายามข่มขืนจนรอดจับคนร้ายได้ แต่ตัวเองกลับถูกไล่ออกจากงาน เพราะต้องไปให้การตำรวจเป็นพยาน ส่งน้ำให้ลูกค้าไม่ทันแถมเอารถมาคืนช้า...
จากกรณีที่เมื่อช่วงบ่าย 3 โมงของวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมาได้เกิดเหตุตาวัย 68 ปี ที่เมาเหล้าขาวลวงหลานสาววัย 15 ปีซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปพยายามข่มขืนในป่าเสม็ดในซอยทุ่งควนจีน หมู่ 3 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แต่ไม่สำเร็จเนื่องจากเด็กร้องและพลเมืองดีได้ยินเข้าไปช่วยเอาไว้ได้ทันล่าสุด ตำรวจนำผู้ต้องหาไปขออำนาจศาล จ.สงขลา ผัดฟ้องฟากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน และได้คัดค้านการประกันตัว และถูกแจ้งข้อหาพยายามข่มขืนกระทำชำเราบุคคลซึ่งอยู่ในความปกครอง ส่วนเด็กสาวแม่ได้รับไปดูแลแล้ว
ปรากฏว่าคดีนี้ยังไม่จบ เนื่องจากพลเมืองดีซึ่งเป็นพนักงานส่งน้ำที่ตัดสินใจเสี่ยงชีวิต วิ่งเข้าไปในป่าเพื่อช่วยเด็กหญิงจนรอดจากการถูกข่มขืนเอาไว้ได้ทันเวลา ได้ถูกเถ้าแก่ไล่ออกจากงานแล้วเพราะทำให้เสียการเสียงานส่งน้ำให้ลูกค้าไม่ทันเพราะต้องไปเป็นพยานในคดีนี้รวมทั้งนำรถคันใหม่ไปใช้และกลับมาล่าช้า
โดยพลเมืองดีคนนี้คือ นายทิพกร ทองขาว อายุ 30 ปี พนักงานส่งน้ำของโรงงานผลิตน้ำดื่มแห่งหนึ่งในอ.หาดใหญ่ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาได้เดินทางไปที่ สภ.หาดใหญ่ เพื่อปรึกษากับทางตำรวจที่ตัวเขาเข้าไปเป็นพยานปากเอกจนต้องถูกไล่ออกจากงาน เนื่องจากเดือดร้อนเพราะไม่มีที่ไปและไม่มีที่พัก เนื่องจากก่อนหน้านี้ก็อาศัยอยู่ที่บ้านของเถ้าแก่หลังจากที่มาทำงานส่งน้ำได้ 2 เดือน
นายทิพกร กล่าวว่า ถูกเถ้าแก่ไล่ออกตั้งแต่เมื่อวานนี้ พร้อมกับเล่าสาเหตุให้ฟังว่า ในวันเกิดเหตุได้ขับรถไปส่งน้ำที่แคมป์คนงานก่อสร้างบริเวณจุดเกิดเหตุและได้ยินเสียงเด็กหญิงร้องขอความช่วยเหลือมาจากในป่าจึงได้วิ่งเข้าไปดู และพบว่ากำลังจะถูกชายแก่ข่มขืน จึงเข้าไปช่วยเหลือเด็กเอาไว้ได้ และรีบแจ้งตำรวจให้มาจับกุมคนร้าย และหลังเกิดเหตุตำรวจได้ขอเบอร์โทรศัพท์ตนเพื่อเป็นพยานในคดีนี้ เพราะเป็นคนเดียวที่เข้าไปช่วยและเห็นเหตุการณ์ ตนจึงได้ให้เบอร์โทรที่ทำงานไปเพราะโทรศัพท์เสีย และในวันนั้นก็ไปส่งน้ำให้ลูกค้าไม่ทันเหลือยู่อีก 50 ถังที่จะต้องส่งให้ลูกค้าประมาณ 50 เจ้า
...
พลเมืองดี กล่าวต่อว่า ในวันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันอาทิตย์ก็นำน้ำทั้ง 50 ถังไปส่งให้ลูกค้าที่เหลือ แต่ทางพนักงานสอบสวนได้โทรศัพท์ไปหาเถ้าแก่ ตามที่ได้ให้เบอร์โทรเอาไว้บอกว่า ให้ตนไปให้การในเวลาประมาณ 9 โมงเช้าตนก็เดินทางไป และให้การเสร็จเวลาประมาณบ่าย 2 โมง จึงขับรถตระเวนส่งน้ำให้ลูกค้าจนเสร็จราว 6 โมงเย็น และขับรถแวะไปที่บ้าน พร้อมกับบอกเล่าเรื่องราวที่ตนไปช่วยเด็กหญิงคนนี้ให้ญาติฟัง และขับรถกลับไปที่โรงงานประมาณ 3 ทุ่ม แต่ปรากฏว่าเถ้าแก่ผู้หญิงไม่พอใจไล่ตนออกจากงานทันทีเพราะกลับมาช้า และก็ไม่พอใจที่นำรถคันใหม่ไปใช้
นายทิพกร กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ถูกไล่ออกจากงานน่าจะมาจากเรื่องที่ตนไปช่วยเด็กหญิงรวมทั้งไปเป็นพยานให้ตำรวจทำให้ส่งน้ำให้ลูกค้าไม่ทัน น้ำขาดลูกค้าไม่มีน้ำดื่ม จึงกระทบถึงเถ้าแก่ ส่วนอีกเรื่องคือตนได้ขอใช้รถคันใหม่ไปส่งน้ำเพราะรถคันเก่ากระจกหน้าแตกและไม่มีกระจกข้างทำให้เวลาขับลำบาก มีฝ้าขึ้นที่กระจกมองไม่เห็น ซึ่งเถ้าแก่ผู้ชายก็อนุญาตแต่เถ้าแก่ผู้หญิงไม่ค่อยพอใจ ประกอบกับเมื่อวานนี้ตนกลับมาช้าจึงถูกเถ้าแก่ผู้หญิงไล่ออกทันที
นายทิพกร กล่าวด้วยว่า ตอนนี้เดือดร้อนมากเพราะไม่มีที่ไป ไม่มีเงิน ต้องไปอาศัยนอนอยู่บ้านเพื่อนชั่วคราวและคิดว่าจะกลับไปอาศัยอยู่กับลุงที่บ้านไสถิน ต.ขอนหาด อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ก่อน เพื่อตั้งหลักและหางานทำใหม่ เพราะตอนนี้รู้สึกสับสนในชีวิตมาก และคดียังไม่จบต้องเป็นพยานในชั้นศาลอีก และตอนนี้ต้องการหางานทำเพื่อช่วยเหลือครอบครัวและส่งเงินไปให้แม่ใช้บ้าง
สำหรับผู้ที่จะต้องการช่วยเหลือ นายทิพกร พลเมืองดีคนนี้ ติดต่อประสานงานได้ที่เบอร์โทรศัพท์ชั่วคราวหมายเลข 094-6246597 ซึ่งเป็นสื่อมวลชนในอ.หาดใหญ่ เนื่องจากนายทิพกร ไม่มีโทรศัพท์ และในวันพรุ่งนี้เวลา 09.00 น. ก็จะเดินทางไปที่ สภ.หาดใหญ่ อีกครั้ง ส่วนความช่วยเหลือในเบื้องต้นทางตำรวจสภ.หาดใหญ่ และสื่อมวลชนได้เรี่ยไรเงินได้ส่วนหนึ่งและมอบให้กับ นายทิพกร เพื่อนำไปซื้อข้าวซื้อน้ำกินก่อนที่จะเดินทางกลับ จ.นครศรีธรรมราช ในวันพรุ่งนี้.