ผวจ.ภูเก็ต เป็นประธาน นิมนต์พระ 9 รูป สวดอุทิศส่วนกุศลให้ 47 ผู้วายชนม์ในเหตุการณ์เรือฟีนิกซ์ล่ม ก่อนนำเรือขึ้นคาน ขณะที่ชมรมมัคคุเทศก์ภาษาจีน เดินขบวนชูป้ายต้าน "ไกด์เถื่อน" แอบแฝงเข้ามาหากินกับทัวร์จีน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 พ.ย. ที่ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำ ภายในท่าเทียบเรือรัษฎา ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้นำเรือฟีนิกซ์มาจอดไว้ชั่วคราวรอการเคลื่อนย้ายขึ้นคานเรือรัตนชัย นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผวจ.ภูเก็ต เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาถวายพระรัตนตรัยและถวายจตุปัจจัยแก่พระสงฆ์ 9 รูป ในพิธีสวดบำเพ็ญกุศล 47 ผู้วายชนม์จากเหตุการณ์เรือฟีนิกซ์ล่ม โดยมีนายหลี ชุ่น ฝู รองกงสุลใหญ่จีนประจำสงขลา และผู้อำนวยการสำนักงานกงสุลจีนประจำภูเก็ต นายสมภพ ปัญญาไวย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 พ.ต.อ.สุเทพ โตอิ้ม ผู้กำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำ ทัพเรือภาคที่ 3 และชุด ร.25 พัน.2 กองทัพภาค 4 ร่วมในพิธี
ทั้งนี้คณะสงฆ์ได้ผูกสายสิญจน์โยงจากตัวเรือฟีนิกซ์มายังจุดประกอบพิธีก่อนเริ่มพิธีสวด จากนั้นเมื่อถวายจตุปัจจัยต่างๆ แล้วเสร็จ ได้ทำการเผากระดาษ ซึ่งมีรายชื่อผู้วายชนม์ทั้ง 47 ราย เพื่ออุทิศส่วนกุศลก่อนเสร็จสิ้นพิธี ขณะที่จุดที่จอดเรือฟีนิกซ์นั้น สารวัตรทหารได้มีการกั้นรั้วแนวเขตไว้ชัดเจน เพื่อห้ามไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสื่อมวลชนเข้าไปยังบริเวณดังกล่าว และให้สื่อมวลชนมีการถ่ายภาพได้นอกเขตแนวกั้นเท่านั้น
...
ขณะที่ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรภาค 8 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐานเบื้องต้น โดยไม่เปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากเป็นไปตามขั้นตอนการสอบสวน ส่วนแผนการทำงานก่อนนำเรือฟีนิกซ์ขึ้นคานนั้น เจ้าหน้าที่ของคานเรือรัตนชัยและทีมวิศวกรเริ่มเข้าปฏิบัติงานด้วยเช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่เปิดเผยเพียงสั้นๆ ว่า จะมีการนำกระสอบบรรจุทรายเข้าไปวางภายในตัวเรือฟีนิกซ์ เพื่อทำการถ่วงดุลตัวเรือที่เอียงให้มีความสมดุล ก่อนจะทำการลากไปขึ้นคาน ซึ่งขณะนี้ที่คานเรือรัตนชัยอยู่ห่างจากจุดนี้ไปประมาณ 500 เมตร เจ้าหน้าที่ได้มีการเตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว เหลือเพียงการถ่วงดุลให้เรือสมดุลก่อนจะใช้เรือเล็กลากเข้าไปขึ้นคาน คาดว่าจะใช้เวลา 1-2 วัน
วันเดียวกันที่ จ.ภูเก็ต สมาชิกชมรมมัคคุเทศก์ภาษาจีนจังหวัดภูเก็ตร่วมกับสมาชิกสมาคมมัคคุเทศก์อันดามันอาชีพในจังหวัดภูเก็ตกว่า 100 คน ร่วมชูป้ายต้านไกด์เถื่อนที่บริเวณใกล้โรงแรมดารา ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ก่อนเดินเท้าไปตามบริษัทนำเที่ยวหลายแห่งในพื้นที่ อ.เมืองภูเก็ต เพื่อยื่นหนังสือขอความร่วมมือไม่สนับสนุนหรือใช้งานไกด์เถื่อนผิดกฎหมาย
หนังสือระบุใจความว่า เรียนผู้ประกอบการบริษัททัวร์จีนทุกบริษัทในจังหวัดภูเก็ต ตามที่บริษัทของท่านได้ดำเนินการธุรกิจท่องเที่ยวในการนำนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ทำให้เศรษฐกิจในภาพรวมดีขึ้น อีกทั้งยังสามารถช่วยเหลือคนในท้องถิ่นให้มีการประกอบอาชีพ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ในนามชมรมมัคคุเทศก์ภาษาจีนจังหวัดภูเก็ตใคร่ขอขอบคุณที่ท่านให้การสนับสนุนธุรกิจท่องเที่ยวด้วยดีเสมอมา เนื่องจากในช่วงนี้มีข่าวสารมากมายในจังหวัดภูเก็ตได้ระบุถึงมัคคุเทศก์เถื่อน ซึ่งเป็นชาวต่างชาติที่ไม่มีเอกสารประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ได้ลักลอบเข้ามาแย่งอาชีพคนไทย ทำให้คนไทยได้รับความเดือดร้อนและตกงาน
...
อย่างไรก็ดี สมาชิกชมรมฯ ได้อ้างถึงพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2557 แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2558 หมวดที่ 3 มาตรา 50 (1)(ข) มีสัญชาติไทย ดังนั้นอาชีพมัคคุเทศก์จึงเป็นอาชีพสงวนไว้สำหรับบุคคลที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น หากผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 33 หรือมาตรา 34 วรรคหนึ่งต้องระวังโทษปรับไม่เกิน 500,000 บาท ดังนั้นจึงเรียนมาเพื่อขอความร่วมมือจากบริษัทของท่านได้ปฏิบัติตามข้อบังคับกฎหมายดังกล่าว
"ทางชมรมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือจากบริษัทของท่าน สำหรับการเข้ายื่นหนังสือดังกล่าวเป็นการทำงานเชิงรุกของทั้งชมรมและสมาคม เพื่อขอความร่วมมือบริษัทนำเที่ยวต่างๆ ไม่ใช้งานหรือสนับสนุนไกด์เถื่อนผิดกฎหมายอีกทางหนึ่ง หลังจากที่ได้ยื่นหนังสือให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการเข้มงวดกวดขันจับกุมไกด์เถื่อนผิดกฎหมายที่เข้ามาลกลอบทำงานแย่งอาชีพคนไทย ซึ่งคาดว่าจะสามารถยื่นหนังสือได้ประมาณ 20 บริษัทในตัวเมืองภูเก็ต และจะทยอยเดินทางไปยื่นหนังสือกับบริษัทนำเที่ยวต่างๆ ในภูเก็ตทั่วจังหวัด".