อุตุเตือนนํ้าไหลบ่า ฝนจมใต้ตอนบน

6 จังหวัดภาคใต้เตรียมรับมือฝนตกหนัก ชุมพรระทมน้ำท่วมถนนหลายสาย เกาะสมุยแจ้ง เตือนนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำตกและเข้าใกล้ธารน้ำ ถนนเพชรเกษม อ.ทับสะแก น้ำท่วมสูงถึงหัวเข่า เตรียมแผนอพยพชาวบ้านหากเกิดฝนตกซ้ำ รพ.บางสะพานน้ำลดเร่งฟื้นฟู คาดให้บริการผู้ป่วยภายใน 2 วัน ขณะที่นายกฯสั่งเน้นดูแลความปลอดภัยของชาวบ้านเป็นหลัก

ภาคใต้ยังมีฝนตกต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำท่วมหลายจังหวัด เปิดเผยเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 10 พ.ย. เกิดฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ส่งผลให้เกิดน้ำป่าจากภูเขาไหลเชี่ยวลงมายังน้ำตกหินลาด หมู่ 3 ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย เป็นแหล่งท่องเที่ยว ด้านว่าที่ ร.ต.กิตติภพ รอดดอน นายอำเภอเกาะสมุย เปิดเผยว่า พื้นที่ อ.เกาะสมุย มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำฝนที่สะสมอยู่บนภูเขาไหลลงมาด้านล่าง โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นน้ำตกจะมีกระแสน้ำไหลแรง เจ้าหน้าที่แจ้งเตือนห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตก หรือเข้าใกล้บริเวณลำธารมีกระแสน้ำไหลแรงในระยะนี้ นอกจากนี้ ปริมาณน้ำที่ไหลลงมาจากภูเขา เข้าท่วมถนนสายรอบเกาะสมุยเป็นบางจุดแล้ว เนื่องจากน้ำระบายลงสู่ทะเลไม่ทัน

นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผวจ.ชุมพร กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมขยายวงกว้างไปเกือบทั้งจังหวัด ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มจังหวัดชุมพร สั่งการให้ทุกๆหน่วยงาน เร่งให้ความช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วนแล้ว ส่วนเส้นทางการจราจรสายหลักที่ผ่าน จ.ชุมพร ประสานให้ พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย ผบก.ภ.จ.ชุมพร สั่งการให้ตำรวจในพื้นที่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่กู้ภัย อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน แจ้งให้หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีระดับน้ำสูง และให้ไปใช้เส้นทางเบี่ยงในจุดต่างๆแทน

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมถนนเพชรเกษมในเขตพื้นที่ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ น้ำท่วมผิวการจราจรบริเวณตัวเมืองทับสะแกหลัก กม.ที่ 349-350 โดยเฉพาะหน้าหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงทับสะแกเป็นจุดลาดต่ำ ผ่านทางยกระดับจนถึงคลองระบายน้ำคลองทับสะแก ระดับน้ำสูงประมาณหัวเข่า นอกจากนี้ เส้นทางระบายน้ำทุกช่องทางที่ไหลข้ามถนนเพชรเกษมจากฝั่งตะวันตกไปยังทิศตะวันออก กระแสน้ำเชี่ยวกรากท่วมจุดกลับรถลอดใต้สะพานทุกจุด น้ำเต็มคลองเอ่อล้นสะพาน และระดับน้ำฝั่งถนนขาล่องใต้สูงกว่ามาก ผลพวงมาจากปริมาณน้ำสะสมจากเทือกเขาตะนาวศรีไหลลงสู่ที่ต่ำ

ด้านนายภิรมย์ นิลทยา รอง ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.บางสะพาน และ อ.บางสะพานน้อย เริ่มคลี่คลาย สภาพการจราจรบนถนนเพชรเกษม รถทุกชนิดสามารถขึ้นล่อง 14 จังหวัดภาคใต้ได้ตามปกติ สำหรับถนนสายรองในพื้นที่ 2 อำเภอบางช่วงยังมีน้ำท่วมขังเป็นบางจุด เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงติดตั้งป้ายเตือนให้ระมัดระวังในจุดเสี่ยง ขณะที่การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ห่างไกล ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายนำเครื่องใช้ที่จำเป็น อาหารปรุงสุก และน้ำดื่มไปแจกจ่ายให้ทั่วถึง ประเมินว่าหากมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง อาจจะต้องอพยพประชาชนบางพื้นที่ไปอาศัยอยู่ในสถานที่ปลอดภัยเป็นการชั่วคราว การเดินทางสัญจรของประชาชนบางพื้นที่ทั้ง 2 อำเภอ ยังมีปัญหาจากคอสะพานชำรุดหลายแห่ง ล่าสุดตั้งหน่วยบริการส่วนหน้าที่โรงเรียนบางสะพานวิทยาจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ

นายภิรมย์เปิดเผยอีกว่า รพ. น้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่เปิดบริการเต็มรูปแบบ เช่นเดียวกับ ร.ร.อนุบาลบางสะพานน้ำลดลง เจ้าหน้าที่กรมชลประทานระดมเครื่องจักรกลหนัก ขุดลอกตะกอนทรายเพื่อเปิดปากคลองให้น้ำระบายได้สะดวกมากขึ้น สำหรับปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 3 แห่งในพื้นที่ อ.บางสะพาน มีระดับกักเก็บที่เกินความจุ ขอแจ้งเตือนการติดตามข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนตรวจสอบข้อเท็จจริง อย่าตื่นตระหนกกรณีมีผู้โพสต์เตือนความมั่นคงแข็งแรงของอ่างเก็บน้ำ ยืนยันว่าอ่างเก็บน้ำทุกแห่งยังมีสภาพปกติ สั่งให้กำนัน และผู้ใหญ่บ้านไปตรวจสอบตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะที่ นพ.เชิดชาย ชยวัฑโฒ ผอ.รพ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า หลังเกิดน้ำท่วมเข้าภายในโรงพยาบาลบางสะพาน เจ้าหน้าที่ปิดรับผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยฉุกเฉิน ย้ายไปตั้งหน่วยแพทย์สนามที่โรงเรียนบางสะพานวิทยา ผู้ป่วยฉุกเฉินสามารถเข้าไปรับการรักษาได้ตามปกติ มีแพทย์และพยาบาลประจำตลอด 24 ชั่วโมง สถานการณ์น้ำท่วมเมื่อคืนวันที่ 9 พ.ย. ที่ห้องฉุกเฉิน และอาคารผู้ป่วยนอกระดับน้ำท่วมสูงประมาณหัวเข่า ภายหลังน้ำลดคงต้องใช้เวลาฟื้นฟู 2 วัน จะกลับมาให้บริการตามปกติ

นายศราวุธ จิรพิทักษ์กุล นายอำเภอบางสะพานน้อย เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในอำเภอบางสะพานน้อยเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ มีเพียงพื้นที่และบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ในที่ลุ่มเท่านั้นที่ยังมีน้ำท่วมขัง ส่วนความเสียหายประชาชนได้รับความเดือดร้อน 2,000 ครัวเรือน 4,000คน มีเด็กชายวัย 2 ขวบ จมน้ำเสียชีวิต 1 ราย ถนนในหมู่บ้านเสียหายกว่า 25 สาย สะพานเสียหาย 25 แห่ง พืชผลทางการเกษตรเสียหาย 2,500 ไร่ พื้นที่ได้รับความเสียหายหนักสุดคือหมู่ 5-8 ต.ช้างแรก เนื่องจากเป็นหมู่บ้านที่เป็นทางน้ำป่าไหลผ่าน

ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ติดตามและได้รับรายงานสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อเนื่อง กำชับให้เจ้าหน้าที่เน้นปฏิบัติการที่มุ่งดูแลสวัสดิภาพและความปลอดภัยของประชาชนเป็นอันดับแรก เช่น การอพยพไปอยู่ในสถานที่ที่เหมาะสม การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากโรงพยาบาลที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง พร้อมทั้งจัดอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค และสิ่งของที่จำเป็นให้เพียงพอต่อการดำรงชีพ นายกฯพอใจที่ทุกหน่วยงานวางแผน และเร่งระดมสรรพกำลังไปช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่

กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายสภาพอากาศว่าในช่วงนี้-วันที่ 16 พ.ย. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น สำหรับภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน มีคลื่นสูง 2-3 เมตร ในช่วงสัปดาห์นี้ขอให้ชาวเกษตรกรบริเวณประเทศไทยตอนบน ควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อผลผลิตทางการเกษตร เนื่องจากฝนที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย

นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยายังออกประกาศเตือน ฉบับที่ 15 ลงวันที่ 10 พ.ย.2561 ภาคใต้บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา และภูเก็ต ยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคใต้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย สำหรับภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯและปริมณฑลจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ขอให้เกษตรกรเตรียมการป้องกัน และระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร