ตร.สภ.ทุ่งใหญ่ นำหมายศาลเข้าควบคุมตัวหมอยาเฒ่าวัย 86 ปี หลังถูกกล่าวหาข่มขืนเด็กหญิงพิการทางสมอง วัย 13 ปี ด้านผู้ต้องหาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปัดข่มชืน อ้างถูกแบล็กเมล์เรียกเงิน 1 แสน ขณะที่ ตร.คุมตัวเข้าห้องขัง รอญาติประกันตัวสู้คดีในชั้นศาล

จากกรณีที่ นางพร (นามสมมติ) อายุ 51 ปี ชาวบ้าน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ย่าของเด็กหญิงน้ำฝน (นามสมมติ) อายุ 13 ปี หลานสาวที่อ้างว่าพิการทางสมอง เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งใหญ่ ว่า ถูก นายเอก (นามสมมติ) อายุ 86 ปี หมอยาสามัญประจำบ้านข่มขืน ขณะที่เข้าไปตามหาลูกแมว ภายในร้านขายยาที่ ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช โดยเด็กหญิงวัย 13 เดินกลับออกมาทางประตูหลังบ้าน มีเงิน 300 บาท กำอยู่ในมือเป็นค่าปิดปาก และขู่ห้ามเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ใครฟัง ไม่เช่นนั้นจะฆ่าให้ตาย จนกระทั่งญาติสอบเค้นเด็กให้การรับสารภาพซัดทอดว่า ถูกนายเอกข่มขืนถึง 3 ครั้ง โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุตำรวจได้สอบปากคำผู้เสียหายและพยานหลายปาก พร้อมเชิญนายเอกที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ ซึ่งเจ้าตัวให้การปฏิเสธ ยืนยันเสียงแข็งว่าไม่ได้ข่มขืน ขณะที่ผลตรวจร่างกายของเด็กหญิงวัย 13 เพื่อหาร่องรอยการถูกข่มขืน แพทย์ รพ.ทุ่งใหญ่ ไม่ยืนยันผลตรวจที่ชัดเจนว่าเกิดจากอะไร

โดยความคืบหน้าล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา(31 ต.ค.) พ.ต.ท.เกษม จอมพงศ์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เดินทางไปขออนุมัติศาลจังหวัดทุ่งสง ออกหมายจับนายเอกผู้ต้องสงสัยที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขืนเด็กหญิงวัย 13 ปี ศาลจังหวัดทุ่งสงอนุมัติออกหมายจับที่ 393/2561 ลงวันที่ 31 ต.ค.2561 ข้อหากระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภรรยาตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม

...

ภายหลังศาลออกหมายจับ พ.ต.อ.ปรีชา ปัญญาเลิศ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ มอบหมายให้ ร.ต.อ.ธวัชชัย ยั่งยืน ร.ต.อ.นนทวัช รัตนนิพนธ์ ด.ต.วรเดช ลิ่มบุตร ตำรวจสืบสวนนำหมายศาลประสานตำรวจ สภ.พรหมคีรี เข้าควบคุมตัวนายเอกที่บ้านพัก เพื่อนำตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สภ.พรหมคีรี ก่อนนำตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.ทุ่งใหญ่ นายเอกที่ตกเป็นผู้ต้องหาให้การเพียงสั้นๆว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เป็นการใส่ร้ายเพื่อหวังแบล็กเมล์เรียกรับเงินถึง 1 แสนบาท พร้อมขอให้การปฏิเสธทุกข้อกล้าวหา จากนั้นตำรวจควบคุมตัวเข้าห้องขัง เพื่อรอให้ญาตินำหลักทรัพย์มาขอยื่นประกันตัว เพื่อออกไปต่อสู่คดีในชั้นศาล

ด้าน พ.ต.อ.ปรีชา ปัญญาเลิศ ผกก.กล่าวว่า ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้เสียหายและฝ่ายที่ตกเป็นผู้ต้องหา ส่วนเรื่องคดีความก็ว่ากันไปตามพยานหลักฐานของแต่ละฝ่าย ศาลเท่านั้นจะเป็นผู้ตัดสินคดีว่าใครถูกหรือผิด