ชาวบ้านกว่า 250 คนแห่ไป รพ.เพื่อฉีดวัคซีนกันเชื้อพิษสุนัขบ้า หลังพบว่าทานเนื้อวัวที่โดนหมาบ้ากัดตาย แต่ส.อบต.เสียดายชำแหละขายราคาถูกในหลายหมู่บ้านใน 2 อำเภอ...
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อ 16 ก.ย. ว่า ในวันที่ 15 ก.ย. ทาง รพ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ได้ประสาน รพ.สต.ในพื้นที่ ต.ท่างิ้ว, ต.นาทราย, ต.ท่าเรือ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และ ต.นาเรียง, ต.อินคีรี อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ให้ช่วยประกาศให้ผู้ที่รับประทานเนื้อวัวที่ถูกสุนัขกัดตายในพื้นที่หมู่ 1 ต.นาเรียง อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเย็นวนที่ 13 ก.ย. 2561 มาโรงพยาบาลเพื่อฉีดยาป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
วัวดังกล่าวทราบว่าเป็นของ “ลุงแดง” ส.อบต.นาเรียง อ.พรหมคีรี คนหนึ่ง โดยวัวถูกสุนัขกัดตาย ส.อบต.เจ้าของวัวเกิดเสียดายจึงชำแหละวัวที่ตาย ก่อนนำเนื้อและเครื่องในวัวส่งไปจำหน่ายราคาถูกไปในพื้นที่หลายหมู่บ้าน หลายตำบลในท้องที่ อ.เมือง และ อ.พรหมคีรี หลังจากชาวบ้านนำเนื้อวัวมาปรุงอาหารประเภทต่างๆ รับประทานผ่านไปราว 2-3 ชม.หลายคนเริ่มมีอาการผิดปกติ เซื่องซึม ขนพอง ตาแดง น้ำลายฟูมปาก และปวดเมื่อยกล้ามเนื้อค่อนข้างรุนแรง
...
มีรายหนึ่งอาการหนักจนญาติๆ ต้องรีบนำส่ง รพ.พรหมคีรี ในคืนวันเดียวกัน (13 ก.ย.) ซึ่งหลังแพทย์ตรวจรักษาจนพ้นขีดอันตราย และพบว่าชาวบ้านคนดังกล่าวติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า จึงสอบถามที่มาที่ไป จนทราบว่าผู้ป่วยรายนี้รับประทานเนื้อวัวของ ส.อบต.ที่ถูกสุนัขกัดตายในท้องที่หมู่ 1 ต.นาเรียง อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช จึงขอให้ช่วยประสานและประกาศให้ชาวบ้านทุกคนที่รับประทานเนื้อวัวรีบเดินทางไปฉีดยาป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโดยด่วน
ทั้งนี้ เชื่อว่าสุนัขตัวที่กัดวัวเป็นโรคพิษสุนัขบ้า เมื่อกัดวัวทำให้วัวติดโรคพิษสุนัขบ้าไปด้วย และต่อมาทั้งสุนัขและวัวได้เสียชีวิต แทนที่ ส.อบต.นาเรียง เจ้าของวัวจะนำซากสุนัขและซากวัวไปฝัง กลับฝังเฉพาะซากสุนัข แต่นำวัวมาชำแหละได้เนื้อวัวกว่า 200 กก. และแบ่งขายไปยังพื้นที่ต่างๆ แห่งละ 30-40 กก. ทาง รพ.พรหมคีรี จึงรีบประสานสำนักงานปศุสัตว์อำเภอพรหมคีรี ให้ลงตรวจสอบในพื้นที่ นำหัววัว เนื้อและหัวใจวัวที่เหลือส่งตรวจที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครศรีธรรมราช
ในขณะที่ชาวบ้านที่รับประทานเนื้อวัวทุกคนเริ่มมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณสันหลัง มีน้ำลายออกมากผิดปกติ ทาง รพ.พรหมคีรี ได้ส่งรถพยาบาลพร้อมประสานขอรถกู้ชีพ กู้ภัยของ อบต., เทศบาล และมูลนิธิการกุศลต่างๆ ในพื้นที่ เข้าไปรับชาวบ้านส่ง รพ.พรหมคีรี รพ.มหาราช รพ.ค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เช้าของวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา และมีประชาชนบางส่วนที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวไปฉีดยาป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า จนถึงเช้าวันนี้ (16 ก.ย.) ชาวบ้านก็ยังทยอยเดินทางไปฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง โดย รพ.พรหมคีรี ฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าให้ชาวบ้านที่รับประทานเนื้อวัวไปแล้วกว่า 200 ราย รพ.มหาราช เกือบ 50 ราย และ รพ.ค่ายวชิราวุธอีกประมาณ 10 ราย ซึ่งแพทย์ได้ฉีดเข็มแรกให้กับทุกคนและกำหนดให้ทุกคนต้องฉีควัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าตามกำหนดอาทิตย์ละ 1-2 เข็มจนครบตามจำนวนคนละ 5-6 เข็ม
...
ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าไปตรวจสอบในซอยลุงฉ่ำ เลียบรั้วมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช พบรถหน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลท่างิ้ว ยังคงนำรถเข้ามารับ-ส่งชาวบ้านที่รับประทานเนื้อวัวติดเชื้อพิษสุนัขบ้า ซึ่งมีครอบครัวที่รับประทานเนื้อวัวมรณะในซอยดังกล่าวเกือบ 6-7 ครอบครัว รวมกว่า 30 คน ส่วนใหญ่จะนำเนื้อวัวมาปรุงอาหารและรับประทานกันยกครอบครัว จึงต้องนำไปฉีควัคซีนกันยกครอบครัว
นายสิทธิชัย มุมทอง กล่าวว่า ในช่วงเย็นของวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนและชาวบ้านไม่ทราบว่าเนื้อวัวและเครื่องในติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า โดยญาติๆ ในซอยเดียวกันเป็นคนนำเนื้อวัวมาขายในราคา กก.ละ 150 บาท จากราคาปกติ กก.ละ 250-270 บาท ครอบครัวตนจึงซื้อเนื้อและเครื่องในรวม 3 กก.และนำมาปรุงอาหารมื้อแรก 1 กก.ทั้งแกงเผ็ดและลาภเนื้อวัว โดยรับประทานกันทั้งบ้าน 4 คนหลังจากนั้นประมาณ 2-3 ชม. ทุกคนเริ่มมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อแผ่นหลัง และมีน้ำลายออกมามากผิดปกติ ขนพอง ตาแดงกล่ำ เมื่อสอบถามเพื่อนบ้านที่ซื้อเนื้อวัวตัวเดียวกันมาปรุงอาหารก็พบว่าทุกคนมีอาการเดียวกัน รุ่งเช้าจึงทราบว่ามีชาวบ้านใน ต.นาเรียง อ.พรหมคีรี อาการรุนแรงจนต้องหามส่ง รพ.พรหมคีรี หลังจากแพทย์ตรวจรักษาก็พบว่าติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า
นายสิทธิชัย เล่าอีกว่า ครอบครัวตนรับประทานเนื้อวัว จำนวน 4 คน ประกอบด้วย ตนเอง ภรรยา พ่อและแม่ อย่างไรก็ตามบุตรสาวของตนอายุ 1 ขวบเศษแม้จะไม่ได้รับประทานเนื้อวัวแต่เขาดูดนมแม่ ทางแพทย์แจ้งว่าบุตรสาวตนจะต้องฉีควัคซีนป้องกันโรคพิษสุนับบ้าด้วย ครอบครัวของตนจึงไปฉีควัคซีนพร้อมกัน 5 คน หลังการฉีควัคซีน พบว่าอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ น้ำลายฟูมปาก ตาแดง ขนพอง บรรเทาเบาบางลงจนเป็นปกติแล้ว