ฉก.ปัตตานี ปิดตำบลบางเขา เปิดเกมรุก ลุยทั้งน้ำ บก อากาศ สกัดทุกเส้นทางหลบหนี เพื่อตามไล่ล่าโจรใต้ซุ่มยิงทหาร 2 ศพ คุม 2 ผู้ต้องสงสัยไปสอบที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร...
ภายหลังเกิดเหตุคนร้ายซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 43 ขณะลาดตระเวนเส้นทางบนถนนสายบ้านดอนนา ม.5 ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ในช่วงกลางคืนของวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น ส่งผลให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 2 นาย ได้รับบาดเจ็บ 4 นายนั้น
สำหรับความคืบหน้า วันที่ 14 ก.ย. พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี ได้ระดมกำลังร่วม 3 ฝ่ายกว่า 100 นาย เปิดแผนเชิงรุกโดยการปิดหมู่บ้านทั้ง ต.บางเขา เนื่องจากยังพบว่ามีการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบ และเชื่อว่าคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุยังคงหลบซ่อนตัวในพื้นที่ โดยกลุ่มคนร้ายใช้เส้นทางหลบหนีทางน้ำที่เชื่อมต่อแม่น้ำสายต่างๆ หลายหมู่บ้าน รวมไปถึงพื้นที่เป็นป่าโกงกางเป็นเส้นทางเข้าออกหมู่บ้าน ซึ่งทั้งเส้นทางน้ำและป่าเป็นเขตรอยต่อระหว่าง อ.เทพา จ.สงขลา เพื่อเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่
สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ ได้จัดกำลังร่วมทั้งภาคพื้นดิน ทางน้ำ และทางอากาศ โดยหน่วยเฉพาะกิจอโนทัยนำเฮลิปคอปเตอร์บินขึ้นไปตรวจสอบและกดดันพื้นที่โดยรอบทั้งเส้นทางเข้าออก พื้นที่ป่า หมู่บ้าน แม่น้ำ รวมไปถึงทะเล ซึ่งการปฏิบัติการทางน้ำเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธครบมือมีการนำเรือยาง 5 ลำลัดเลาะไปตามแม่น้ำสายหลักและสายรองที่เชื่อมต่อหมู่บ้านและเส้นทางน้ำที่ไหลออกทะเล เพื่อเป็นการกดดันและดูเส้นทางน้ำ
แหล่งข่าวระบุว่า กลุ่มก่อความไม่สงบได้ใช้เรือเป็นพาหนะในการเข้ามาประชุมวางแผนและก่อเหตุ ขณะที่ภาคพื้นดินหน่วยกำลังร่วม 3 ฝ่ายพร้อมอาวุธจัดกำลังเป็น 10 ชุด เข้าปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายทุกจุด และการตั้งจุดสกัดบนถนนทุกเส้นทางเพื่อตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย ซึ่งปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นการกดดันไล่ล่ากวาดล้างและปิดช่องว่างไม่ให้มีการเคลื่อนไหลรวมตัวเพื่อเตรียมการก่อเหตุ ซึ่งผลการปฏิบัติการเกี่ยวกับความคืบหน้าของคดีนั้น สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 2 ราย ซึ่งได้นำตัวไปสอบสวนที่ศูนย์ซักถามค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี
...

พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุได้ประเมินสถานการณ์พบว่า กลุ่มก่อความไม่สงบยังคงเคลื่อนไหวและเตรียมก่อเหตุ ซึ่งถ้าคนร้ายยังไม่ถูกจับกุมก็จะเป็นอันตรายต่อประชาชน แม้กระทั่งสงสัยว่าเป็นสายข่าวก็ไม่ปลอดภัย จึงจำเป็นต้องระดมเครื่องมืออาวุธยุทโธปกรณ์ ทหาร ตำรวจ อส.ทั้งหมดเข้ามาร่วมแผนครั้งนี้โดยการยกระดับการเตรียมพร้อมการเฝ้าระวังระดับ 4 ยอมรับว่าประชาชนอาจจะกระทบต่อความเป็นอยู่บ้าง เพราะจะมีการปิดล้อมตรวจค้นมากขึ้น เพราะถ้าเราไม่ดำเนินการอย่างเข้มงวดมันก็จะเปิดโอกาสให้ผู้ก่อเหตุเคลื่อนไหวได้
ผบ.ฉก.ปัตตานี กล่าวด้วยว่า การเปิดแผนครั้งนี้เป็นการกระชับพื้นที่ ต.บางเขา เพราะเราได้เบาะแสจากภาพข่าวว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุ คือนายรอสือดี หลำโซ๊ะ และนายบูคอลี หลำโซ๊ะ ซึ่งเป็นชุดปฏิบัติการในพื้นที่ อ.เทพา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ลักลอบเข้ามาจึงต้องมีการปิดพื้นที่จับกุมและอาจจะขยายพื้นที่เชิงรุกข้ามพื้นที่ 4 อำเภอ จ.สงขลา ซึ่งได้มีการประสานกับหน่วยเฉพาะกิจสงขลา ตนขอชี้แจงว่า การปฏิบัติงานครั้งนี้มีเป้าหมายเพราะบุคคลเหล่านี้ยังอยู่ในพื้นที่จึงต้องบล็อกพื้นที่ติดตามจับกุมอย่างรอบคอบ เรามีเป้าหมายหมดแล้ว แต่ต้องไล่ทีละจุดเพื่อป้องกันความผิดพลาดให้มากที่สุด.