น้ำตาอาบแก้ม ขอผู้ใหญ่วงการกีฬา อย่าทิ้งใครไว้ข้างหลัง! เสียงสะอื้นจากความรู้สึกของ “เกสร ชูบาล” อดีตจอมพลังสาวยกลูกเหล็กทีมชาติไทย ป่วยหลายโรครุมเร้า มีรายได้น้อยนิดจากเบี้ยพิการ-บัตรคนจน...

เกสร ชูบาล อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ 6 บ้านโคกทราย ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง อดีตนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย แชมป์ยกน้ำหนักหญิง กีฬามหาวิทยาลัยโลก 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน ที่ประเทศอิตาลี และอดีตนักยกน้ำหนัก เคยร่วมทัพนักกีฬาไทยสู้ศึกซีเกมส์ ปี 2546 ครั้งที่ 20 ที่กรุงฮานอย สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย แต่ปัจจุบันเธอมีชีวิตอย่างลำบากในบ้านเกิด จ.ตรัง เนื่องจากอาการป่วย หลายโรครุมเร้า ทั้งโรคทางประสาท โรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง

เริ่มจากอาการป่วยทางประสาท จากความผิดหวังการแข่งขันกีฬายกน้ำหนักครั้งสุดท้าย เมื่อปี 2548 ซึ่งผลมาออกมาพ่ายแพ้ ทำให้เธอผิดหวังอย่างหนัก มีอาการทางประสาท นอนไม่หลับ เหมือนภาพหลอนวนเวียนอยู่ในหัวโดยตลอด จึงตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเกิด หลังอาการป่วยทางประสาทดีขึ้น เพื่อรักษาตัว โดยมีแม่วัย 59 ปี คอยดูแลให้กำลังใจอยู่ไม่ห่าง

...

อดีตจอมพลังสาวยกลูกเหล็กทีมชาติไทย เล่าว่า ทุกวันนี้มีเพียงรายได้จากเบี้ยความพิการเดือนละ 800 บาท และจากสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย เดือนละ 300 บาท แต่ต้องจ่ายเงินกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่กู้ยืมมา 120,000 บาทเศษ หลังไปเรียนต่อจนจบปริญญาตรี สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตสุโขทัย และขณะนี้ถูกสั่งฟ้องแล้วยังไม่มีเงินผ่อน ทำได้เพียงจ่ายเป็นค่าปรับตกเดือนละ 500 บาท ในทุกๆ เดือน

พร้อมกล่าวทิ้งท้ายเชิงตัดพ้อว่า นักกีฬาเปรียบเหมือน “หมาล่าเนื้อ” ขอให้ตนเป็นตัวอย่างสุดท้ายของนักกีฬาทุกคน และขอฝากไปทางผู้ใหญ่ในวงการกีฬาอย่าทิ้งใครไว้ข้างหลังอีก วงการกีฬาหน้าฉากกับหลังฉากมันต่างกันไม่ได้สวยหรูอย่างที่เห็นเหมือนภาพตอนขึ้นไปคล้องคอรับเหรียญมีชื่อเสียงสร้างประโยชน์ได้มีแต่คนชื่นชม จึงขอวิงวอนอย่าทอดทิ้งนักกีฬาทีมชาติ แม้พวกเขาจะไม่ประสบความสำเร็จ สงสารพวกเขา อยากให้ตั้งกองทุนสวัสดิการช่วยเหลือ.