จนท.กระบี่ ตรวจแล้ว เชื่อ เป็น “แมงมุมแม่ม่ายน้ำตาล” สายพันธุ์เดียวกับแมงมุมแม่ม่ายดำ มีพิษร้ายแรงส่งผลต่อระบบประสาท กล้ามเนื้อเกร็งเป็นอัมพาต ทำให้เสียชีวิตได้ ล่าสุด พบรังฟักไข่เพิ่มอีกบริเวณใต้รถยนต์ของตัวเอง เร่งตรวจละเอียด  

จากกรณีพบฝูงแมงมุมพิษที่บ้านของชาวบ้าน ในพื้นที่ หมู่ 2 ต.พรุดินนา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ จนเจ้าของบ้านหวาดผวา ต้องรื้อข้าวของภายในบ้านเพื่อค้นหาและกำจัด เนื่องจากตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า เป็นแมงมุมพิษในตระกูลแมงมุมแม่ม่าย

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. นายทวีศิลป์ รอดคุ้ม ผอ.รพ.สต.พรุดินนา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ได้เข้าตรวจสอบ และสอบถามข้อมูลกับนายสมนึก แก้วเจือ เจ้าของบ้านเลขที่ 35/6 หมู่ 2 ซึ่งเป็นบ้านที่พบแมงมุมดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบซากของแมงมุมที่เก็บได้ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่า เป็นแมงมุมแม่ม่ายน้ำตาล หรือ Brown Widow ซึ่งเป็นสายพันธุ์เดียวกับแมงมุมแม่ม่ายดำ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลแมงมุมชนิดนี้ เป็นสายพันธุ์ที่มีพิษรุนแรงน้อยกว่าแมงมุมแม่ม่ายดำ โดยในประเทศไทย ที่มีรายงานพบเห็นมีอยู่หลายจังหวัด ซึ่งแต่เดิม ไม่ใช่สัตว์ประจำถิ่นของประเทศไทย แต่มีนักค้าสัตว์นำเข้ามาขาย จนหลุดออกมาขยายพันธุ์มากขึ้น

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลของเจ้าหน้าที่ พบว่า พิษของแมงมุมชนิดนี้ จะส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้อเกร็งจนเป็นอัมพาต ซึ่งสาเหตุที่จะทำให้เสียชีวิตได้ จะเกิดจากกล้ามเนื้อกะบังลมและกล้ามเนื้อหัวใจหยุดทำงาน นอกจากนี้พิษของแมงมุมแม่ม่ายสีน้ำตาล ยังมีองค์ประกอบที่ส่งผลต่อการทำลายเนื้อเยื่อรอบแผลทำให้เกิดความเจ็บปวดและแผลจะหายช้า แต่ยังไม่เคยมีรายงานการเสียชีวิตจากการโดนแมงมุมแม่ม่ายสีน้ำตาลกัด ทั้งนี้ เนื่องจากแมงมุมชนิดนี้จะกัดผ่านผิวหนังมนุษย์ได้เฉพาะในเพศเมีย ที่มีขนาดใหญ่กว่าเพศผู้ และมีเขี้ยวที่ยาวกว่า จึงกัดผ่านผิวหนังมนุษย์ได้ รวมทั้งนิสัยของแมงมุมชนิดนี้ ไม่ใช่สัตว์ที่ก้าวร้าว โดยมากจะหลบหนีหากถูกรุกราน นอกจากจะถูกเหยียบ หรือไปจับตัวของมัน อาจจะถูกกัดได้ จึงมีโอกาสน้อยมากที่จะมีคนถูกกัด

...

นายทวีศิลป์ กล่าวว่า เบื้องต้นตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำสารเคมีมาฉีดพ่นรอบๆ บริเวณบ้าน รวมถึงในตัวบ้านของนายสมนึก เพื่อกำจัดแมงมุมที่คาดว่าจะหลงเหลือ ไม่ให้แพร่พันธุ์ได้อีก และแจ้งให้เจ้าของบ้านคอยสังเกตในระยะ 1-2 สัปดาห์นี้ หากยังพบเห็นร่องรอยของแมงมุมชนิดนี้ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ หรือเร่งทำลายทันที ที่ผ่านมาในพื้นที่ ต.พรุดินนา ยังไม่เคยมีรายงานพบแมงมุมชนิดนี้ หลังจากนี้ตนจะเร่งหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อแจ้งให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับทราบ และคอยระมัดระวัง หากพบเห็นอย่าจับตัวแมงมุมโดยตรงเด็ดขาด

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากแมงมุมที่พบก่อนนี้ 8 ตัว แล้ว ล่าสุด นายสมนึก เผยว่า ได้นำรถไปให้ช่างซ่อมช่วยรื้อตรวจสอบ พบว่าใต้ท้องรถ บริเวณที่เป็นพรม ยังมีร่องรอยของก้อนใยแมงมุม ซึ่งมีลักษณะเหมือนเป็นรังฟักไข่ จึงส่งภาพไปให้ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ตรวจสอบให้ในเบื้องต้น ทางผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า แมงมุมชนิดนี้เป็นแมงมุมแม่ม่ายสีน้ำตาล ส่วนก้อนใยที่พบน่าจะเป็นรังฟักไข่ หากตนไม่นำรถไปตรวจสอบ เชื่อว่าจะยังมีลูกแมงมุมเตรียมเกิดออกมาอีกจำนวนมาก ทั้งนี้ ตนจะนำรถเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่ายังมีร่องรอยของแมงมุมชนิดนี้หลงเหลือหรือไม่.