เป็นข่าวใหญ่ออกมา กรมเจ้าท่า มีคำสั่งย้ายผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าส่วนภูมิภาค สาขาภูเก็ต และตั้งคณะกรรมการสอบทางวินัย กรณีเรือฟีนิกซ์ ไดวิ่ง ล่มกลางทะเลภูเก็ต ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 40 คน

กรมเจ้าท่าตั้งกรรมการตรวจสอบว่าเข้าข่าย “ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่” หรือไม่

หลังปล่อยเรือออกจากท่า ทั้งที่จำนวนนักท่องเที่ยวไม่ตรงกับเอกสาร และปล่อยให้เรือได้รับอนุญาตต่อเรือ และจัดทำพิมพ์เขียวต่อเรือครบสมบูรณ์ตามกฎหมายกำหนดไว้ หรือบกพร่องไม่ตรวจสอบ

แต่มีหลายส่วนของเรือที่ไม่ได้มาตรฐาน

เหตุการณ์เรือนำเที่ยวล่มอับปางกลางทะเลที่ จ.ภูเก็ต มีผลกระทบอย่างหนัก ทำให้นักท่องเที่ยวจีนยกเลิก และชะลอการจองห้องพักในพื้นที่ จ.ภูเก็ต คาดว่ากระทบรายได้ไม่น้อยกว่า 42,000 ล้านบาท ขณะที่กระทรวงคมนาคมสั่งเร่งแก้ไขระเบียบควบคุมเรือนำนักท่องเที่ยวชุดใหญ่ หวังฟื้นความเชื่อมั่นการท่องเที่ยวไทย เพื่อไม่ให้กระทบรายได้ท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ต ที่เติบโตกว่าปีละ 350,000 ล้านบาท

นอกจากเจ้าของเรือถูกดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว

ผู้ที่ประสบเหตุที่ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิต “เหยื่อเรือล่ม” สมควรได้รับส่วนค่าเสียหายและค่าชดเชย แต่ยังพบว่า เจ้าของบริษัทเรือยังไม่ดำเนินการใดๆ

ตำรวจท่องเที่ยวเร่งรัดบริษัทเรือ บริษัทประกันภัย จ่ายเงินประกันผู้ประสบภัยโดยเร่งด่วน

ส่วน น.ส.วรลักษณ์ ฤกษ์ชัยกาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีซี บลูดรีม จำกัด เจ้าของเรือ จะเป็น “นอมินี” ให้ต่างชาติหรือไม่ ตำรวจต้องสอบสวน และหาหลักฐานเพิ่มเติม

มีผลทำให้นักท่องเที่ยวจีนทยอยยกเลิกการจองห้องพักใน จ.ภูเก็ต ไปแล้วกว่าร้อยละ 10-15 จากปกติจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาภูเก็ตไม่น้อยกว่า 3 ล้านคน จากยอดนักท่องเที่ยวจีนในไทยทั้งปี 10 ล้านคน

...

ยอดการจองห้องพักใน จ.ภูเก็ต ในช่วง 2 เดือนข้างหน้า หายไปแล้วกว่าร้อยละ 70 กระทบรายได้ไม่น้อยกว่า 42,000 ล้านบาท

เป็นตัวเลขที่น่าเป็นห่วง

กระทรวงคมนาคม มีคำสั่งให้กรมเจ้าท่าทบทวนมาตรฐานความปลอดภัยการเดินทางทางเรือใหม่ พิจารณาแนวทางการบริหารการตรวจปล่อยท่าเรือเหมือนการท่าอากาศยาน

ปรับปรุงข้อกฎหมายเพิ่มอำนาจเจ้าหน้าที่ หากพบพฤติกรรมผู้ประกอบการฝ่าฝืนคำเตือน

โดยเฉพาะตามท่าเรือของเอกชน ซึ่งการออกเดินเรือ เป็นดุลพินิจของผู้ประกอบการ

ซึ่งอาจกดดันคนขับเรือ จนเป็นเหตุใหญ่ตามมา.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th