ชาวมุสลิมพื้นที่ภาคใต้ร่วมสวดขอพรหลังทำละหมาดวันศุกร์ ให้ 13 ชีวิตติดถ้ำหลวงรอดปลอดภัย และขอให้ จนท.ค้นหาเจอตัวกลับออกมาโดยเร็ว ส่วนมุสลิม 4 ชาติร่วมดูอาร์ให้เด็กๆ ขณะร่วมแรลลี่เที่ยวใต้...

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 29 มิ.ย. 61 ที่มัสยิดปากีสถาน ถ.รัตกาล เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในวันนี้ซึ่งมีการละหมาดยุมอัต หรือละหมาดวันศุกร์ ซึ่งเป็นละหมาดสำคัญประจำสัปดาห์ ตามมัสยิดทุกแห่งทั้ง 16 อำเภอใน จ.สงขลา เช่นที่มัสยิดปากีสถาน ใน อ.หาดใหญ่ ชาวไทยมุสลิมได้ร่วมกันขอพรจากเอกองค์อัลเลาะห์หลังละหมาดยุมอัต เพื่อให้ช่วยคุ้มครองและประทานพรให้เด็กๆ นักฟุตบอลทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย และโค้ชทั้ง 13 คน ที่ยังติดอยู่ในถ้ำหลวงปลอดภัยทุกคนและให้เจ้าหน้าที่สามารถค้นหาทั้ง 13 คนให้พบโดยเร็วที่สุด  

...

นายปิสโดช เบ็ญจคาร อิหม่ามมัสยิดปากีสถาน เปิดเผยว่า นอกจากชาวไทยมุสลิมจะขอพรหลังละหมาดยุมอัต หรือละหมาดวันศุกร์แล้ว ยังมีการขอพรจากพระผู้เป็นเจ้าหลังละหมาดทั้ง 5 เวลาของทุกวันต่อเนื่องจากนี้ไปจนถึงกระทั่งพบเยาวชนและโคชทั้ง 13 คน และช่วยออกมาได้อย่างปลอดภัย

ด้านที่มัสยิดมำบัง หรือมัสยิดกลาง จ.สตูล หลังจากเสร็จละหมาดวันศุกร์ นายยูโสป สลาม โต๊ะอิหม่ามมัสยิดกลาง จ.สตูล ได้นำชาวมุสลิมกว่า 500 คนละหมาดฮายัตเพื่อขอพรจากพระเจ้าให้โค้ชและกลุ่มเยาวชนหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย รวม 13 คนที่พลัดหลงติดค้างอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ให้รอดปลอดภัย ทั้งนี้เนื่องจากศาสนาอิสลามสอนให้เป็นผู้มีความเมตตา ดังนั้นชาวมุสลิมทั้งหลายจะต้องให้ความเมตตากับทุกคน ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด การนับถือศาสนา หลักปฏิบัติทางศาสนา และความเชื่อในเรื่องศาสนาไม่ใช่อุปสรรคขวางกั้นในการให้ความเมตตาต่อกัน

ด้านนายอรุณ อุมาจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.สตูล กล่าวว่า สำหรับมัสยิดต่างๆ ใน จ.สตูล 232 มัสยิด ได้มีการอ่านดุอาร์ขอพรหลังจากละหมาดวันศุกร์เพื่อทั้ง 13 คนปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีชาวมุสลิมใน จ.สตูล มีการอ่านดุอาร์ขอพรหลังจากละหมาดวันละ 5 เวลา เพื่อให้ทุกคนออกจากถ้ำมาอย่างปลอดภัย

ส่วนที่สุไหงโก-ลก นายปรีชา นวลน้อย นายอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ได้ร่วมให้การต้อนรับคณะแรลลี่รถออฟโรดจาก 3 ประเทศ อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย จำนวน 200 คัน กว่า 400 ชีวิต ภายใต้การนำของ ดาโต๊ะกามารูดีน โมฮัมหมัด ซึ่งเป็นคณะผู้แทนรัฐบาล รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ที่เดินทางผ่านด่านพรมแดน อ.สุไหงโก-ลก เพื่อมาท่องเที่ยวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

มีชมรมรถออฟโรด จ.นราธิวาส เป็นผู้นำทางในการท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อันลือชื่อของแต่ละจังหวัด ซึ่งจัดขึ้นโดยศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และชมรมสื่อมวลชนเพื่อสันติจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อเป็นการลบภาพลักษณ์สิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดระยะเวลากว่า 14 ปีที่ผ่านมา และเป็นการปูพื้นฐานในการดึงดูดนักลงทุนหันมาลงทุนกิจการต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

โดยคณะแรลลี่ออฟโรดกว่า 400 ชีวิต ได้ร่วมขบวนเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว ซึ่งตั้งอยู่ ต.กะลุวอเหนือ อ.เมืองนราธิวาส เพื่อชมความสวยงามของชายหาดที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ 2 ข้างทาง และร่วมรับประทานอาหารและปล่อยพันธุ์กุ้ง จำนวน 100,000 ตัว ที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานประมง จ.นราธิวาส ปล่อยลงสู่ท้องทะเลเพื่อขยายพันธุ์ ซึ่งมีนายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ รองเลขาธิการ ศอ.บต. นายสุรพร พร้อมมูล ผวจ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องคอยให้การต้อนรับ และมอบสิ่งของที่ระลึกซึ่งกันและกัน

...

อย่างไรก็ตามก่อนที่คณะแรลลี่จะเดินทางไปท่องเที่ยวต่อยัง จ.ยะลา ทางคณะแรลลี่ 3 ชาติ ได้ร่วมกับชมรมรถออฟโรด จ.นราธิวาส จำนวน 150 คน ได้ร่วมกันทำการแปรอักษรเป็นเลข 13 อารบิก ซึ่งมีวงกลมล้อมรอบ ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ริมชายหาดอ่าวมะนาว พร้อมทั้งได้ทำการสวดดูอาร์ขอพรจากผู้เป็นเจ้า โปรดประทานความปลอดภัยแก่เยาวชนและโค้ชทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีแม่สายทั้ง 13 คน.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 13 ชีวิตติดในถ้ำหลวง